เย้ยกม.จับเวียดนามลอบตัด "ไม้หอมกฤษณา" คาป่าภูเขียว

สิ่งแวดล้อม
10 พ.ค. 67
09:30
336
Logo Thai PBS
เย้ยกม.จับเวียดนามลอบตัด "ไม้หอมกฤษณา" คาป่าภูเขียว
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ขบวนการค้าไม้ข้ามชาติเหิมเกริม ลอบตัดไม้กฤษณา 8 ต้น ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว เจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ 1 คน ที่เหลือแตกกระเจิง ส่งตำรวจดำเนินคดี

วันนี้ (9 พ.ค.2567) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายวิชานนท์ แสนผาลา หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวว่า หลังจากเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนบ้านโหล่น และชุดลาดตระเวนหนองนกออก ออกลาดตระเวนเชิงคุณภาพตรวจพบร่องรอยการลักลอบตัดไม้กฤษณา จำนวน 8 ต้น บริเวณยอดห้วยน้ำแซ่บ จึงได้ส่งชุดลาดตระเวนเข้าติดตามร่องรอยของผู้ที่เข้ามากระทำผิดในบริเวณดังกล่าว 

ต่อมาในวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ตรวจพบกลุ่มชายต้องสงสัย คาดว่าเป็นชาวต่างชาติ ประมาณ 7 คน บริเวณป่าแหลป่าเตย เมื่อกลุ่มผู้กระทำผิดมองเห็นเจ้าหน้าที่ จึงวิ่งหลบหนีกันไปคนละทาง เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุในเบื้องต้น พบว่ามีเป้ถุงปุ๋ยบรรจุไม้กฤษณา จำนวน 5 ใบ สัมภาระอื่นๆอีก 2 ใบ จึงได้ติดตามผู้หลบหนีไป พบว่ามีร่องรอยลงจากเขาไปแล้ว

เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จึงได้สนธิกำลังเข้าดักซุ่มในเส้นทางที่คาดว่าเป็นเส้นทางที่ผู้หลบหนีใช้ลงจากเขา จำนวน 3 เส้นทาง ตั้งแต่เวลา 20.30 น.และได้พบแสงไฟคาดหัว 2 ดวง เดินลงมาจากเขาในบริเวณที่ดักซุ่ม จนถึงเวลาเที่ยงคืน เจ้าหน้าที่ได้พบชายต้องสงสัยทั้งหมด 7 คน ซึ่งคาดว่าเป็นผู้หลบหนี เดินลงมาจากแนวเขา จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น

แต่ปรากฎว่าผู้ต้องสัยสัยทั้ง 7 คน ได้วิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวไว้ได้ 1 คน บริเวณแนวเขตหน่วยพิทักษ์ป่าโนนศรีสง่า จากการตรวจค้น พบ passport ทราบชื่อนายเหงียน วาน ลี เป็นชายชาวเวียดนามนาม อายุ 57 ปี

เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวภูเขียว พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 2 ได้เข้าตรวจติดตามผู้หลบหนีอีก 6 คน อย่างต่อเนื่องและดักซุ่มตามจุดต่างๆ เนื่องจากคาดว่าผู้ที่หลบหนียังอยู่ในพื้นที่

ขณะนี้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว 12 คนได้เดินเท้าเข้าไปในสถานที่เกิดเหตุ เพื่อนำของกลางลงจากสถานที่เกิดเหตุ นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

แต่เนื่องจากเส้นทางเข้าไปยังสถานที่เกิดเหตุเป็นหน้าผาสูงชัน ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้การเดินทางเข้าถึงเป้าหมายเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการนำของกลางออกจากพื้นที่เกิดเหตุได้ ในวันที่ 10 พ.ค.นี้

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง