"สภากาชาดไทย"รณรงค์สร้างความเข้าใจผู้ติดเชื้อเอดส์ สร้างความอบอุ่นในครอบครัว

30 พ.ย. 55
14:21
326
Logo Thai PBS
"สภากาชาดไทย"รณรงค์สร้างความเข้าใจผู้ติดเชื้อเอดส์ สร้างความอบอุ่นในครอบครัว

การสร้างความเข้าใจแก่ผู้ติดเชื้อเอดส์ เพื่อเตรียมพร้อมในการเปิดเผยตัวเองกับครอบครัว เป็นประเด็น 1 ที่ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย พยายามรณรงค์ แม้จะเป็นเรื่องยากเพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่ต้องการปิดเรื่องนี้เป็นความลับ กลัวถูกสังคมรังเกียจ แต่สำหรับผู้ติดเชื้อที่เลือกเปิดเผยตัวเองกับครอบครัว โดยเฉพาะกับลูกก็พบว่า นำไปสู่ความเข้าใจการดูแลเอาใจใส่กันของคนในครอบครัวมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพทั้งกายและใจให้กับผู้ป่วยเอดส์ได้อย่างมาก

ผู้ติดเชื้อเอดส์วัย 39 ปี เดินทางมาโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา จ.ชลบุรี ตามที่แพทย์นัดทุก ๆ 6 เดือน เพื่อเจาะเลือดตรวจปริมาณ ซีดีโฟร์ หรือ วัดระดับภูมิต้านทานในร่างกาย แต่จากสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรง จึงแทบไม่น่าเชื่อว่าชายผู้นี้จะป่วยด้วยโรคเอดส์มานานกว่า 10 ปี ที่สำคัญคือภรรยาของเขา ก็ได้รับเชื้อเอดส์เช่นกัน ทั้ง ๆ ที่ขณะนั้นตั้งครรภ์ลูกคนที่ 4 แต่จากการเข้าถึงการรักษาและป้องกันอย่างรวดเร็วทำให้ลูกไม่ได้รับเชื้อ

<"">
<"">

แม้จะรู้สึกหดหู่กับชีวิตหลังทราบว่า ติดเชื้อเอดส์แต่กำลังใจที่ทั้งคู่มีให้กันรวมถึงครอบครัว พ่อ แม่ พี่น้องที่เห็นอกเห็นใจ ก็ช่วยให้เผชิญเรื่องเลวร้ายอย่างเข้มแข็ง ขณะเดียวกันทั้งคู่ไม่ได้มองว่า การป่วยด้วยโรคเอดส์เป็นความลับ จึงไม่เคยปกปิดเรื่องนี้กับลูก

การเปิดเผยตัวเองว่า ติดเชื้อเอดส์ต่อครอบครัวมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ทั้งคู่รู้สึกสบายใจ ไม่เครียด ส่งผลดีต่อสภาพร่างกาย ยิ่งไปกว่านั้นคือลูก ๆ ยอมรับได้ ไม่รังเกียจ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ครอบครัวผู้ติดเชื้อเอดส์ต้องพยายามทำเรื่องนี้

<"">
<"">

นางพรเพ็ญ เมธาจิตติพันธ์ พยาบาลผู้รับผิดชอบและประสานงานเอดส์ รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา กล่าวว่า ผู้ป่วยต้องพร้อมทั้งสภาพจิตใจและครอบครัว จึงจะกล้าเปิดเผยตัวเอง ซึ่งพบว่ามีจำนวนน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่เลือกที่จะปิดเป็นความลับ กลัวสังคมรังเกียจ ดังนั้นเป็นหน้าที่ของพยาบาลผู้ดูแลที่ต้องทำความเข้าใจ และชี้ให้เห็นผลที่จะตามมาทั้งทางสุขภาพใจและกาย

จากสถิติของ รพ.สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ซึ่งอยู่ในการดูแลของสภากาชาดไทย พบว่า ผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ทุกสิทธิการรักษาเพิ่มขึ้นทุกปี จากปี 2550 ที่มีจำนวน 2,355 คน เพิ่มเป็น 6,609 คนในปีนี้ (55) โดยเป็นผู้ป่วยใช้สิทธิประกันสังคม มากที่สุดถึงร้อยละ 63.94 รองลงมาคือสิทธิข้าราชการ 14.38 และหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ร้อยละ 12.39


ข่าวที่เกี่ยวข้อง