70 ปีลูกโลกทองคำ
คำถามแทงใจ จอห์นนี เด็ปป์ ว่าได้ดูหนังยอดแย่ที่เขานำแสดงอย่าง The Tourist ซึ่งเคยเข้าชิงลูกโลกทองคำอย่างน่ากังขาแล้วหรือยัง ถือเป็นมุกตลกเปิดงานโดยพิธีกรปากกล้า ริคกี้ เจอร์เวส ที่แม้จะเป็นการเหน็บแนมดาราและเจ้าภาพจัดงาน แต่ก็สร้างเสียงหัวเราะให้กับแขกในงานถ้วนหน้า คือบรรยากาศผ่อนคลายคล้ายงานสังสรรค์ของ Golden Globe Award พิธีแจกรางวัลสำหรับผลงานภาพยนตร์และโทรทัศน์ โดยสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำฮอลลีวูด ที่มีการถ่ายทอดไปทั่วโลกถึง 187 ประเทศ
แต่เดิมลูกโลกทองคำมีรางวัลใหญ่เพียงสาขาเดียวคือรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ซึ่งความสำเร็จตกเป็นของหนังขาวดำเรื่อง The Song of Bernadette ในปี 1944 ก่อนจะมีการแบ่งรางวัลเป็นสาขาภาพยนตร์ดราม่ายอดเยี่ยมและภาพยนตร์เพลงหรือตลกยอดเยี่ยมในปี 1950 โดยความสำเร็จครั้งนั้นตกเป็นของ Sunset Boulevard ผลงานคลาสสิกของผู้กำกับ บิลลี ไวด์เดอร์ ในสาขาดราม่า และ An American in Paris หนังเพลงอมตะของ จีน เคลลี ที่ชนะในสาขาเพลงหรือตลก ซึ่งในปี 1956 จึงเริ่มมีการมอบรางวัลสำหรับวงการโทรทัศน์เป็นครั้งแรก
งานลูกโลกทองคำครั้งแรกจัดขึ้นที่สตูดิโอของค่ายภาพยนตร์ 20th Century Fox ก่อนจะย้ายมายังโรมแรม เบเวอร์ลี ฮิลตัน ที่กลายเป็นเจ้าภาพจัดงานลูกโลกทองคำนับแต่ปี 1961 เป็นต้นมา งานจัดต่อเนื่องมาทุกปีกระทั้งมาสะดุดในปี 2008 จากการนัดหยุดงานทั่วประเทศของสมาชิกสมาคมนักเขียนบทของอเมริกา ทำให้ผู้จัดยกเลิกการแจกรางวัลโดยมีการประกาศรายชื่อผู้ชนะออกอากาศทางโทรทัศน์เท่านั้น
บ่อยครั้งที่ลูกโลกทองคำถูกครหาด้านความโปร่งใส ทั้งการถูกแบนจากสถานีโทรทัศน์ NBC ระหว่างปี 1968 ถึงปี 1974 เนื่องจากไม่พอใจวิธีเลือกผู้ชนะเฉพาะแขกที่ตอบรับมาร่วมงาน รวมถึงกรณีติดสินบนกรรมการ ทั้งในปี 1981 ที่มีการซื้อรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ให้กับดาราสาว เปีย ซาโดร่า โดยสามีมหาเศรษฐีของเธอ และข้อหาการติดสินบนโดยค่ายหนังในปี 2011 จากการเสนอชื่อเข้าชิงของหนังที่ล้มเหลวด้านเสียงวิจารณ์ทั้ง The Tourist และ Burlesque
นักแสดงที่ประสบความสำเร็จบนเวทีลูกโลกทองคำมากที่สุดได้แก่ เมอรีล สตรีป ที่คว้ารางวัลสูงสุดถึง 8 ครั้งและเข้าชิงสูงสุดถึง 27 ครั้ง รวมทั้งการเข้าชิงล่าสุดจากเรื่อง Hope Springs โดยแต่ละปีจะมีการเปลี่ยนผู้ทำหน้าที่เปิดงานทุกครั้ง กระทั้งใน 3 ครั้งล่าสุดที่ ริคกี้ เจอร์เวส นักแสดงตลกอังกฤษมารับหน้าที่พิธีกร โดยปีนี้จะได้ 2 ดาวตลกสาวแนวหน้าอย่าง ทีน่า เฟย์ และ เอมี โพห์เลอร์ มาทำหน้าที่พิธีกร
ผลงานเด่นที่ลุ้นรางวัลปีนี้ต่างเต็มไปด้วยเนื้อหาสะท้อนมุมมองทางการเมือง ทั้งการต่อสู้เพื่อการเลิกทาสในสหรัฐฯ ใน Lincoln ที่เข้าชิงสูงสุด 7 สาขา, การลักลอบช่วยเหลือทูตสหรัฐฯ ออกจากอิหร่านใน Argo ได้เข้าชิง 5 สาขา การล่าสังหารนายโอซามะ บิน ลาดินใน Zero Dark Thirty ได้ลุ้นใน 4 สาขา ขณะที่ตัวเต็งละครและภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ทั้ง Homeland และ Game Change ก็ล้วนมีจุดขายที่เนื้อหาทางการเมืองอันเข้มข้นทั้งคู่