นายกฯ ยันทำงานเต็มที่แม้ ป.ป.ช. ตรวจสอบทรัพย์สิน

การเมือง
20 มี.ค. 56
02:57
41
Logo Thai PBS
นายกฯ ยันทำงานเต็มที่แม้ ป.ป.ช. ตรวจสอบทรัพย์สิน

นายกรัฐมนตรี ยืนยันจะทำหน้าที่รับใช้ประชาชนอย่างเต็มที่ต่อไป หลัง ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบการปล่อยกู้ให้บริษัทคู่สมรส พร้อมระบุว่า ทำถูกต้องตามขั้นตอนกฏหมาย และขณะที่ กำลังมีการตรวจสอบดังกล่าวอยู่ ก็มีกระแสถึงการเลือกนายกรัฐมนตรีสำรอง โดยวางตัวให้ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ก้าวเข้าสู่ถนนสายการเมืองอีกครั้ง ผ่านช่องทางของการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้มีคำยืนยันแล้วว่า จะส่งนางเยาวภาลงสนามเลือกตั้งครั้งนี้

กระแสข่าวทางการเมือง ที่ระบุถึง อุบัติเหตุทางการเมือง ที่อาจส่งผลให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาจต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กลายเป็นประเด็นที่นำมาถูกเชื่อมโยงกัน ระหว่างกรณีการตรวจสอบ การแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ในการปล่อยกู้ยืมเงิน 30 ล้านบาท ให้แก่บริษัท แอ็ค อินเด็กซ์ จำกัด ที่มีนายอนุสรณ์ อมรฉัตร คู่สมรสของนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ

โดยถูกนำมาเชื่อมโยง กับกรณีกระแสข่าวการเลือกตัวนายกรัฐมนตรีสำรอง ที่ถูกระบุว่า มีการวางตัว นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ให้เข้ามาทำหน้าที่หากเกิดปัญหาขึ้น โดยมีการตั้งข้อสังเกตถึง การที่พรรคเพื่อไทยจะส่ง นางเยาวภา ลงสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 แทนนายเกษม นิมมลรัตน์ ที่ลาออกไป โดยอ้างว่ามีปัญหาสุขภาพ

ซึ่งล่าสุดมีความชัดเจนแล้วว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย มีมติเลือก นางเยาวภา ลงสมัครเลือกตั้งซ่อมอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมทั้งมอบหมายให้ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้ง

กรณีนี้แม้จะมีการคาดการณ์ว่าเป็นการปูทางทางการเมือง แต่ในความเห็นของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ คู่สมรสนางเยาวภา ได้ออกมายืนยันว่า ทั้งพรรคเพื่อไทย และตัวนายกรัฐมนตรี ยังคงมีความเข้มแข็งมากพอที่ไม่จำเป็นต้องมีการเลือกนายกรัฐมตรีสำรองเอาไว้ ตามที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์

นายสมชาย ระบุด้วยว่า หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นจริง รัฐธรรมนูญก็ได้กำหนดกระบวนการการเลือกนายกรัฐมนตรีไว้แล้ว พร้อมระบุด้วยว่า ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ผูกขาดเฉพาะคนในตระกูลชินวัตร

ขณะที่ นายกรัฐมตรี เปิดเผยว่า ได้ชี้แจงข้อมูลและข้อเท็จจริงในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.อย่างถูกต้องและเป็นไปตามขั้นตอน จึงขอความเป็นธรรมจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาเรื่องนี้ รวมถึงขอโอกาสในการทำงาน โดยยืนยันจะทำงานอย่างเต็มความสามารถ

สำหรับกรณีการปล่อยกู้ 30 ล้าน มีการแถลงจาก ป.ป.ช. ถึงประเด็นในการตรวจสอบว่า แม้นางสาวยิ่งลักษณ์ จะยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน รวมถึงกรณีการปล่อยกู้ด้วยเอกสารหลักฐานที่ชัดเจน แต่เอกสารที่แนบมา ซึ่งเป็นบัญชีงบดุลของผู้ให้กู้และผู้กู้ กลับไม่สอดคล้องกัน ซึ่งในอีก 2 สัปดาห์หลังจากนี้ ป.ป.ช.จะสามารถสรุปได้ว่า จำเป็นต้องสอบเชิงลึกและไต่สวน เพื่อเข้าสู่การกระบวนการชี้มูลความผิดหรือไม่

มีการคาดการณ์ผลของการตรวจสอบ กรณีปล่อยกู้ 30 ล้านบาท ไปใน 2 ทิศทาง คือ หากผลออกมาในด้านบวก ก็คือข้อบกพร่องในการจัดทำบัญชีงบดุลเกิดจากผู้กู้เอง ความผิดนั้นอาจตกอยู่ที่ตัวบุคคลหรือนิติบุคคลเท่านั้น แต่ถ้าสถานะผู้ถูกกล่าวหา อยู่ในฐานะคู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย ยังต้องตามต่อถึงผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช่นเดียวกับกรณีทุจริตซื้อที่ดินรัชดา

แต่หากผลพิจารณาออกมาเป็นด้านลบ หรือพบว่า มีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ นายกรัฐมนตรีอาจต้องพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นผลพวงมาจากกฎหมาย ที่ระบุว่า หากพบว่ามีความผิดจะถือเป็นการสิ้นสุดของคณะรัฐมนตรีด้วย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง