รมว.มหาดไทยตั้งกก.สอบ"สะพานถล่ม"-สั่งผู้ว่าฯทุกจังหวัดตรวจสะพาน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ

สังคม
29 เม.ย. 56
07:43
48
Logo Thai PBS
รมว.มหาดไทยตั้งกก.สอบ"สะพานถล่ม"-สั่งผู้ว่าฯทุกจังหวัดตรวจสะพาน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ

เจ้าหน้าที่โยธาธิการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เริ่มกู้ซากสะพานแขวนข้างวัดสะตือไสยาสน์ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่พังถล่มเมื่อวานนี้ (28เม.ย.56) ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาสาเหตุอย่างเร่งด่วนใน 15 วัน

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงหมาดไทย ลงพื้นที่อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อรับฟังปัญหา และแนวทางการแก้ไขปัญหาสะพานแขวนสมโภชน์รัตนโกสินทร์ 200 ปี ข้างวัดสะตือไสยาสน์ พร้อมสั่งหารให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสาเหตุการพังถล่มของสะพานใน 15 วัน จากนั้น เมื่อทราบสาเหตุแน่ชัดแล้ว จึงค่อยดำเนินการซ่อมแซมสะพานต่อไป ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายหลักฐานในที่เกิดเหตุด้วย นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัดตรวจสอบความพร้อมของโครงสร้างสะพาน โดยเฉพาะในพื้นที่จ.ตาก และจ.เลย เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ อย่างไรก็ตาม นายจารุพงศ์ จะช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบดเจ็บอย่างเต็มที่

ด้านนายณรงเดช ฉิมเล็ก หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการโยธาธิการ ระบุว่า สาเหตุของการถล่มนั้น มาจากการที่ลวดสลิงรับน้ำหนักมากเกินไป ซึ่งขณะเกิดเหตุนั้น สลิงทางด้านขวาได้ขาดก่อน ประกอบกับในขณะนั้นมีประชาชนใช้รถเป็นจำนวนมาก

   

ขณะเดียวกัน ประชาชนทั้งสองฝั่งของสะพานแขวนสมโภชน์รัตนโกสินทร์ 200 ปี เริ่มได้รับความเดือดร้อนแล้ว เนื่องจากไม่สามารถไปมาสัญจรได้ โดยจะต้องใช้เส้นทางอื่นซึ่งอ้อมกว่า 6 กิโลเมตร ทั้งนี้ ชาวบ้านเล่าให้ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสฟังว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่าน สะพานแห่งนี้เคยซ่อมแซมอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากตรวจพบว่าชำรุด ขณะที่มักมีรถยนต์มาใช้สะพานนี้เช่นกัน

ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายของวันนี้ (29 เม.ย.56) เจ้าหน้าที่วิศกร และนักประดาน้ำจะลงดำน้ำเพื่อกู้ซากสะพาน รวมถึงทรัพย์สินอื่น ๆ เช่น รถจักยานยนต์ ซึ่งคาดว่าจะจมอยู่ประมาณ 2-3 คัน รวมถึงยกแท่นปูนขึ้นจากน้ำ ซึ่งต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากใต้น้ำนั้นมีท่อประปาที่ส่งให้กับประชาชนในอ.ท่าเรือทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว 4 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 12 ราย โดยมี 2 รายในจำนวนนี้ มีอาการบาดเจ็บสาสาหัส ซึ่งถูกส่งตัวไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลใกล้เคียงแล้ว ทั้งนี้ จ.พระนครศรีอยุธยา จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งหมด รวมไปถึงการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 25,000 บาท ขณะเดียวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 3,000 บาท


ข่าวที่เกี่ยวข้อง