เรียงร้อยเรื่องราวผ่านตัวละคร จากนวนิยายซีรีส์สู่ละครชุด

Logo Thai PBS
เรียงร้อยเรื่องราวผ่านตัวละคร จากนวนิยายซีรีส์สู่ละครชุด

ยุคนี้ พระ-นาง ชื่อดัง เพียงคู่เดียว อาจไม่ใช่สูตรสำเร็จของละคร เพราะหลายเรื่องเลือกให้มีตัวละครเด่นหลายคู่ และนำเสนอในรูปแบบละครชุด โดยนำบทประพันธ์มาจากนวนิยายซีรีส์ สร้างสีสันแจ้งเกิดนักแสดงหน้าใหม่ ขณะที่เนื้อหาพาฝันอาจช่วยให้ผู้ชมเพลิดเพลิน และกลายเป็นจุดขายของละครโทรทัศน์

กว่าจะได้คุณชาย หนุ่มในฝันแห่งสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ในนวนิยายชุดนี้ใช้นักเขียนถึง 5 คน ทำงานกันเป็นทีม  ร่วมกันวางพล็อต และตัวละครเอก แล้วแยกย้ายไปเขียนต่อเติมเรื่องตามแนวถนัดมากไปกว่าได้นวนิยายเล่มเดียว ซึ่งทางสำนักพิมพ์มีเป้าหมายนำเสนอช่องต่างๆ เพื่อสร้างเป็นละครโทรทัศน์   

ในช่วง 3 ปีมานี้ แฟนละครอาจจะได้เห็นการสร้างละครจากนวนิยายชุด มาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เรื่อง สะท้อนความสำเร็จของการเขียนนวนิยายชุดที่มีเสน่ห์อยู่ที่การผูกร้อยเรื่องราวของตัวละครมากมายในแต่ละตอนให้สัมพันธ์กันทั้งหมด และเอาใจช่วยตัวละครเด่นที่ตัวเองชื่นชอบให้สมหวังในการฝ่าฟันอุปสรรครักจากชนชั้น

ความรักต่างชนชั้น การตามหารักแท้ และสะท้อนค่านิยมทางสังคม เช่น ผู้ชายต้องเสียสละ รักศักดิ์ศรี ให้เกียรติผู้หญิง รักชาติ บ้านเมือง ส่วนผู้หญิงที่ดีต้องรักนวลสงวนตัว เป็นแม่ศรีเรือน ซึ่งเป็นเนื้อหาหลักในละครที่ไม่ซับซ้อน นำพล็อตเรื่องเดิมๆที่ปรากฏในนวนิยายดังมาผสมผสานเล่าเรื่องใหม่ เพื่อเพิ่มสีสันให้มีพระนางหลายคู่ โดยจุดขายอยู่ที่การทำเป็นละครชุด

ฉัตรารัศมิ์ แก้วมรกต หรือนามปากกา ร่มแก้ว  ผู้เขียนนิยายสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายปวรรุจ กล่าวว่า เริ่มมาจากที่เคยเขียนนิยายชุดมาแล้วชื่อว่า บ้านไร่ปลายฝัน และในรูปแบบละคร ชื่อว่า สี่หัวใจแห่งขุนเขา และเมื่อปี 2555 ซีรีส์ชุดชื่อว่า เดอะซิกเซ้นส์ เป็นละครเหมือนกัน ปีนี้คิดว่าจะทำเรื่องอะไรที่ไม่ซ้ำกับที่ผ่านมา จึงหาข้อมูลและนิยายยุคนั้นมาอ่านเยอะ เช่น เรื่อง วนิดา และปริศนา ซึ่งถ้าเขียนใหม่แบบย้อนยุค จะเป็นภาษาเก่า จึงอยากจะใส่อะไรที่มีความเป็นตัวเราผสมสมัยใหม่ เพื่อคนสมัยใหม่สามารถอ่านได้รู้เรื่อง

ด้านผศ.ธเนศ เวศร์ภาดา  คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ ม.หอการค้าไทย กล่าวว่า เป็นแนวเขียนแบบหนึ่งที่พยายามจะแตกต่างออกมา แต่ไม่ได้ใหม่ เพราะฉะนั้นจะเสี่ยงว่าอยู่ได้ยาวนาน จึงต้องฝากว่าจะทำอย่างไรให้อยู่ยาวนาน  ซึ่งคนเขียนต้องทำงานหนักมากกว่านี้

แตกต่างจากเดิมที่มีพระนาง แสดงนำเพียงคู่เดียว แต่ละครหลายเรื่องในวันนี้มีพระเอก นางเอกหลายคู่ เปิดโอกาสให้ผู้สร้างใช้เป็นเวทีปั้นนักแสดงหน้าใหม่

นอกเหนือไปจากละครได้รับความนิยม ละครชุดเป็นเวทีแจ้งเกิดนักแสดงหน้าใหม่ โดยมีการวางแผนการตลาดอย่างเป็นรูปธรรม ตั้งแต่ก่อนละครออนแอร์ ระหว่างออกอากาศ จนถึงพบกับนักแสดงเมื่อละครจบ เป็นแนวทางการนำนิยายชุด มาสร้างเป็นละคร ซึ่งเป็นอีกรูปแบบอุตสาหกรรมบันเทิง ที่ถูกกำหนดตั้งแต่บทประพันธ์ ถึงภาพลักษณ์นักแสดง ให้ผู้ชมเพลินไปกับโลกของละครพาฝัน ที่ห่างจากสังคมวุ่นวาย และไกลความจริง 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง