“บุญทรง”นำคณะนักธุรกิจขยายผลข้อตกลงด้านทรัพยกรแร่โมซัมบิก

เศรษฐกิจ
17 มิ.ย. 56
02:59
59
Logo Thai PBS
“บุญทรง”นำคณะนักธุรกิจขยายผลข้อตกลงด้านทรัพยกรแร่โมซัมบิก

โดยจะผลักดันการสำรวจ เพิ่มมูลค่า และอำนวยความสะดวก เชื่อลู่ทางการค้าลงทุนระหว่างกันมีแนวโน้มสดใส

 นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการนำหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเยือนประเทศโมซัมบิกและแอฟริกาใต้ ระหว่างวันที่ 17-22 มิถุนายนนี้ว่า ตนจะเป็นหัวหน้าคณะเยือนโมซัมบิกอย่างเป็นทางการ เพื่อเจรจาหาลู่ทางการค้าการลงทุนและแสวงหาวัตถุดิบ(business matching & sourcing) โดยเฉพาะอัญมณี พร้อมเข้าพบรมว.ทรัพยากรแร่โมซัมมิก เพื่อวางรากฐานและสร้างความสัมพันธ์อันดีที่จะนำไปสู่การค้าระหว่างกันในระยะยาว รวมถึงแนวทางการสำรวจทรัพยากรแร่ การใช้ประโยชน์ และการอำนวยความสะดวกในการส่งออกอัญมณี

“การหารือจะร่วมกันหาแนวทางขยายการค้าลงทุนให้ถูกต้องตามกฎหมายในโมซัมบิก  ผ่านโมเดลการจัดตั้งศูนย์การค้าอัญมณี(Gems Trading Center)ภายใต้กรอบเอ็มโอยูด้านทรัพยากรแร่ระหว่างไทยกับโมซัมบิก เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นช่องทางในการผลักดัน และรับรองการประชุมคณะทำงานว่าด้วยความร่วมมือด้านทรัพยากรแร่ระหว่างไทยกับโมซัมบิก ซึ่งฝ่ายไทยมี 16 หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมเป็นคณะทำงานร่วมฯดังกล่าว โดยร่วมกันกำหนดแนวทาง แผนงานและรูปแบบกิจกรรมระหว่างปี 2556 -2557 “นายบุญทรง กล่าว 
 
สำหรับการทำธุรกรรมค้าขายผลิตภัณฑ์แร่นั้น แม้ในกฎหมายระบุต้องเป็นบุคคลชาวโมซัมบิกเท่านั้น แต่โมซัมบิกมีหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่กำกับดูแลด้านการเหมืองแร่ คือ EMEM : Mozambique Mining Exploration Company ซึ่งสามารถพิจารณาใช้เป็นช่องทางการทำการค้าวัตถุดิบอัญมณีระหว่างไทยกับโมซัมบิกได้   โดยจะปูพื้นฐานไปสู่การจำหน่าย ที่เมืองนัมปูลาเป็นลำดับแรก และกำลังพิจารณาเมืองมองตาเปรส กับเมืองเพมบาเป็นลำดับต่อไป และในอนาคตจะมีการขยายธุรกิจให้คลอบคลุมสินค้าโลหะมีค่า เช่น ทองคำ และโลหะมีค่าอื่นๆ ทั้งนี้ รัฐบาลโมซัมบิกจะจัดเก็บภาษีจากธุรกรรมการซื้อขายพลอยในอัตรา 2 - 3%
 
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า จะมีพีธีลงนามบันทึกความเข้าใจ(เอ็มโอยู)ของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประกับแห่งชาติ(องค์การมหาชน) หรือ GIT และสัญญาร่วมลงทุนของภาคเอกชนที่เดินทางร่วมคณะ  การเดินทางไปแอฟริกาใต้ เพื่อจัดงานไทยแลนด์เทรดโชว์ ณ เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจัดประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (เจทีซี) ไทย-แอฟริกาใต้ ครั้งที่ 3 เพื่อหาลู่ทางขยายการค้าการลงทุนระหว่างกัน  โดยมีเป้าหมายขยายการค้าสองฝ่ายให้เพิ่มเป็น 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2560 
 
นางศรีรัตน์ กล่าวถึงมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับโมซัมบิกในช่วง 4 เดือนแรก(ม.ค.-เม.ย.)ของปีนี้ ว่า มีมูลค่าการส่งออกกว่า 34 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(1,018 ล้านบาท) ลดลง 33% สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ข้าว เม็ดพลาสติก เครื่องนุ่งห่ม รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำตาลทราย ผ้าผืน เป็นต้น  ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 3.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(106 ล้านบาท) ลดลง59% สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ ด้ายและเส้นใย ไม้ซุง ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งแปรรูป เครื่องเพชร พลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ แร่และผลิตภัณฑ์จากแร่ เป็นต้น 
 
ด้านมูลค่าการค้าระหว่างไทยกับแอฟริกาใต้ในช่วง 4 เดือนแรก(ม.ค.-เม.ย.)ของปีนี้ มีมูลค่าการส่งออกกว่า 826 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(24,479 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 9.7% สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ข้าว เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น  ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 778  ล้านเหรียญสหรัฐฯ(23,329 ล้านบาท) ลดลง 20% สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องเพชร พลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรและส่วนประกอบ เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ เป็นต้น 
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง