ธปท.แนะรับมือความเสี่ยงเศรษฐกิจ

ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่าจากปัจจัยทางการเมืองในขณะนี้ทำให้เงินทุนไหลออกบ้างแล้ว พร้อมคาดหวังให้ทุกฝ่ายไม่สร้างอุปสรรคต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ พร้อมกันนี้ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจโลกที่มีสูงขึ้น จึงขอให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มการกันหนี้ เพื่อรับความผันผวนทางเศรษฐกิจทั้งจากใน และต่างประเทศ

ในงานสัมมนาวิชาการเรื่องการคุ้มครองเงินฝาก และกำกับดูแลสถาบันการเงิน นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า จากบทเรียนวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 ทำให้มีการปรับปรุงกฎหมายทั้งพระราชบัญญัติสถาบันการเงิน และพระราชบัญญัติคุ้มครองเงินฝาก โดยปรับหลักเกณฑ์กำหนดเงินทุนสำรองความเสี่ยงหนี้เสีย เกณฑ์การติดตามการเฝ้าระวังความเสี่ยง ตลอดจนการตรวจสอบภายใน และธรรมาภิบาล

ล่าสุด แบงก์ชาติประกาศบังคับใช้เกณฑ์การเพิ่มสำรองเงินทุนระดับ 3 หรือ บาเซล 3 และจำกัดการคุ้มครองเงินฝาก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งการเฝ้าระวังความเสี่ยง พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ฝากเงินในระยะยาว แต่จากความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก และมีธุรกรรมการเงินหลากหลาย อาจมีความเสี่ยงซ่อนอยู่ จึงต้องอาศัยธรรมาธิบาล และความร่วมมือทุกภาคส่วนในการสกัดปัญหาขั้นต้น โดยขอให้ธนาคารพาณิชย์เพิ่มกันสำรองหนี้ดีเพิ่มขึ้น

ส่วนปัญหาการชุมนุมเริ่มส่งผลให้เงินทุนเคลื่อนย้ายออก และค่าเงินบาทอ่อนลง แต่เชื่อว่าเป็นผลกระทบระยะสั้น จึงอยากให้ทุกฝ่ายคำนึงประโยชน์ของประเทศ และไม่สร้างอุปสรรคภายในประเทศเสียเอง