การแข่งขันฟุตบอลโคปา อเมริกา นัดชิงชนะเลิศ ที่สนามเอสตาดิโอ้ โมโนเมนทอล ในกรุงบูเอโนส ไอเรส ประเทศอาร์เจนติน่า ทีมจอมโหด อุรุกวัย ทีมอันดับ 3 จากศึกฟุตบอลโลกพบกับปารากวัย นาทีที่ 12 อุรุกวัย ได้ประตูนำไปก่อน 1-0 จากผลงานของ หลุยส์ ซัวเรส และเป็นการทำประตูได้ 2 นัดติดต่อกัน นาทีที่ 42 อุรุกวัย ได้ประตูนำ 2-0 จาก ดีเอโก้ ฟอร์ลัน นาทีที่ 90 อุรุกวัยได้ประตูย้ำชัยชนะ 3-0 จากผลงานของ ฟอร์ลัน คนเดิม จบเกม
อุรุกวัย ของโค้ช ออสก้า วอร์ชิงตัน ตาบาเรส นำทีมคว้าแชมป์สมัยที่ 15 และมีสถิติเหนือกว่า อาร์เจนติน่า 1 สมัย โดยหลังสุดที่ อุรุกวัยได้แชมป์ ต้องย้อนไปปี 1995 ซึ่งเป็นปีที่อุรุกวัย เป็นเจ้าภาพหลังจบเกม หลุยส์ ซัวเรซ เปิดเผยว่าอุรุกวัยได้แสดงให้เห็นแล้วว่าการได้อันดับ 3 ในฟุตบอลโลกปี 2010 ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ โดยทีมชาติอุรุกวัยชุดนี้มีถึง 20 คน จาก 23 คน ที่ผ่านศึกฟุตบอลโลกมาด้วยกัน
ส่วนการแข่งขันฟุตบอลเยอรมัน ซูเปอร์คัพ ที่สนามเวลทินส์ อารีน่า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แชมป์บุนเดสลีกาฤดูกาลที่แล้ว พบกับ ชาลเก้ 04 แชมป์เดเอฟเบ โพคาล นัดนี้โอกาสดีที่สุดเป็นของดอร์ทมุนด์ จากการโหม่งของ เซบาสเตียน เคห์ล แต่บอลไปชนเสา หลังจากนั้นทั้ง 2 ทีมมีโอกาสได้ประตูแต่จังหวะสุดท้ายไม่เด็ดขาดพอครบ 90 นาทีเสมอกันไป 0-0 ต้องดวลลูกจุดโทษตัดสิน
ผลปรากฏว่า ชาลเก้ ยิงแม่นกว่าและเอาชนะไป 4-3 ชาลเก้ คว้าแชมป์ซูเปอร์คัพไปครอง ส่วนฟุตบอลบุนเดสลีกาฤดูกาลใหม่จะเริ่มประเดิมสนามนัดแรกวันที่ 6 สิงหาคม โดย ดอร์ทมุนด์ แชมป์เก่า จะเปิดบ้านพบกับ ฮัมบูร์ก ส่วน ชาลเก้ บุกไปเยือน สตุ๊ตการ์ท
ส่วนสนามลินคอน ไฟแน่นเชียล ฟิลด์ ในรัฐเพ็นซิลเวเนีย มีแฟนบอลเข้ามาชมถึง 57,000 คน ทีมฟิลลาเดลเฟีย ยูเนี่ยน พบกับ ราชันชุดขาว รีล มาดริด ที่ชนะในเกมอุ่นเครื่องมา 2 นัด ทั้ง แอลเอ แกแลคซี่ และ ชีวาส กัวดาลาฮาล่า นาทีที่ 2 รีล มาดริด ได้ประตูนำไปก่อน 1-0 เมื่อ ซาบี้ อลองโซ่ เปิดบอลยาวให้ โฆเซ่ มาเรีย กาเญฆ่อน ปีกขวาตัวใหม่ยิงเข้าไป
นาทีที่ 11 รีล มาดริด ได้ประตูนำ 2-0 เมื่อ คาริม เบนเซม่า เปิดบอลให้ เมซุส โอซิล ทำประตู นาทีที่ 80 ฟิลลาเดลเฟีย ยูเนี่ยน ได้ประตูตามมาเป็น 1-2 จาก ไมเคิ่ล ฟาร์ฟัน จบเกม รีล มาดริด เก็บชัยชนะได้ 3 นัดรวดในการทัวร์ อเมริกาเหนือ โดย มาดริด จะบินต่อมาอุ่นเครื่องที่ประเทศเยอรมนี กับทีม แฮร์ธ่า เบอร์ลิน วันที่ 27 กรกฎาคม นี้
ขณะที่อีก 1 คู่ในการทัวร์อเมริกา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ แอลเอ กาแลคซี่ เป็นการเตะนัดสุดท้ายจาก 3 นัดในการทัวร์อเมริกาเหนือของแมนซิตี้ นาทีที่ 18 แมนซิตี้ ได้ลูกจุดโทษ มาริโอ บาโลเตลลี่ รับหน้าที่ยิงเข้าประตูไป นาทีที่ 32 บาโลเตลลี่ ได้โอกาสทำประตูที่ 2 ในเกมนี้ แต่เจ้าตัวกลับโชว์ลีลาตอกส้นยิงประตูและบอลไม่ตรงกรอบ จากจังหวะดังกล่าวทำให้ โรแบร์โต้ มันชินี่ ไม่พอใจและเปลี่ยนตัว บาโลเตลลี่ ออกทันที
ในช่วงครึ่งหลัง ไมค์ มากี ทำประตูตีเสมอให้ แอลเอ กาแลคซี่ ในนาทีที่ 53 ครบ 90 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องยิงลูกโทษตัดสิน ก่อนที่ แมนซิตี้ จะชนะไปในการยิงลูกโทษ 7-6 ทำให้ แมนซิตี้ ชนะ 3 นัดรวดในการทัวร์อเมริกา หลังจากนี้ แมนซิตี้ จะเดินทางไปยังประเทศไอร์แลนด์เพื่อลงเล่นฟุตบอลรายการ ดับลินซูเปอร์คัพต่อไป