วันนี้ (7 มิ.ย. 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แค่เห็นหน้านักแสดงนำครบทีมก็รู้ทันทีว่าไดอารี่ตุ๊ดซี่ ซีซัน 2 จะกลับมา ความสำเร็จจากจอแก้วที่นำเรื่องวุ่นๆ ปนฮาของแก๊งเพื่อนเพศทางเลือกมานำเสนอ ที่ผู้กำกับ เติ้ล-ปิยะชาติ ทองอ่วม เชื่อว่าความตลกขายได้และเป็นจุดร่วมให้ผู้ชมคล้อยตาม ยังเป็นจุดเด่นของละครช่องดังย่านอโศก ล่าสุดเล็งจับกระแสรักสุขภาพมาทำเป็นซีรีย์กีฬาผูกเรื่องกับนักแสดงรุ่นใหม่ เรียกว่าตีเหล็กตอนยังร้อนใช้ทีมคนเคยทำหนังจาก GDH มาระดมสมอง ได้ภาพละครมุมมองใหม่ที่ผู้ชมรอดู
แม้ชัดเรื่องกลุ่มผู้ชมวัยทีน แต่ค่ายดังไม่ปล่อยผู้ชมรุ่นใหญ่หลุดมือ นำนวนิยายชุดชื่อดัง “เพลิงกฤษณา” จากปลายปากกานักเขียนชั้นครู กฤษณา อโศกสิน มาแต้มสีใหม่ด้วยนักแสดงในสังกัด
ขณะที่ละครร่วมค่ายที่เจ้าพ่อละครเวทีกุมบังเหียน ประกาศศึกคอนเทนต์เน้นการพัฒนาบท ใช้เทคนิคฟอร์มทีมนักเขียนไม่น้อยกว่า 3 คนร่วมหารือ หาบทที่โดนใจปิดช่องโหว่เรื่องไม่มีดาราเบอร์ใหญ่มาขายแข่ง
นัฐฐพนธ์ ลียะวณิช ผู้จัดละคร ระบุว่า เรื่องบทเป็นสิ่งสำคัญมาก รวมถึงเรื่องอาร์ตและโทนของละคร ซึ่งในปัจจุบันต้องกระชับฉับไว
ขณะที่ กฤษณภูมิ พิบูลย์สงคราม นักแสดง บอกว่า ละครไทยเป็นอะไรที่วัดไม่ได้ บางเรื่องดังมาก บางเรื่องมีสาระมากก็ไม่ดัง คิดว่าแล้วแต่กระแสคนแชร์บนออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันมีอิทธิพลมากกับหนังหรือซีรีส์
ด้าน ปิยะชาติ ทองอ่วม ผู้กำกับละครซีรีส์ แสดงทัศนะในเรื่องนี้ว่า เข้าใจว่าคนดูบางกลุ่มมีความสุขกับการดูอะไรที่ฉูดฉาด ชัดเจน ตรงไปตรงมา แต่ก็เป็นปกติที่ต้องมีคนดูบางกลุ่ม ที่มีเป้าหมายว่าการได้ดูละครให้สนุกไม่จำเป็นต้องมีเนื้อหารุนแรง
แม้จะผ่านจุดลองผิดลองถูก แต่ทิศทางละครยุคทีวีดิจิทัลยังต้องสร้างภาพ ฉายบุคลิกของช่องให้ชัดเจน อย่างสองช่องยักษ์ใหญ่ที่ขับเคี่ยวเรตติ้งละครดังหลังข่าว ทั้งวิกสามพระราม 4 ยังทยอยสร้างคู่จิ้นบนหน้าจอ อย่าง วาววา กับ อินดี้ และดึงคู่จิ้นประจำช่อง ณเดชน์-ญาญ่า มาเจอกัน ขณะที่ช่องหลากสี ยังพอเหลือพระนางตัวหลักให้ดึงเชิง ทั้ง มีน-พีชญา ปุ๊กลุก-ฝนทิพย์ ขวัญ-อุษามณี และ เวียร์-ศกลวัฒน์
แต่สำหรับช่องทีวีดิจิทัลย่านลาดพร้าว แม้ถูกวิจารณ์หนักเรื่องนักแสดงหน้าช้ำเพราะวนกันเล่น แต่ก็เป็นมวยถูกทางหลังทำเรตติ้งจากละครเป็นรองเพียงช่องหลัก 3 และ 7 และยังมีวางแผนจับกลุ่มผู้ชมอย่างชัดเจน จึงกล้าทุ่มหนักกับละครปีนี้ ด้วยทุนถึง 1,000 ล้านบาท ผลิตละครกว่า 30 เรื่อง เน้นเนื้อหาถึงพริกถึงขิง และใช้นักแสดงในสังกัดโหมกระแสข่าวเข้าช่วย
ในเรื่องนี้ บุษกร วงศ์พัวพันธ์ ผู้จัดละคร บุคลิกของช่อง 3 พลังคู่จิ้นยังใช้ได้
ส่วน รวีวรรณ บุญประชม นักแสดง กลับบอกว่า แต่ละช่องมีเอกลักษณ์ของละครต่างกันอยู่แล้ว ที่ได้ร่วมงานกับทีวีซีนก็มีจุดขายเรื่องสอดแทรกคุณธรรม ก็มีฐานผู้ชมตรงนี้อยู่
ถึงกระนั้น ใช่ว่านักแสดงระดับแม่เหล็กจะดึงดูดคนดูได้เสมอไป เพราะบทเรียนนี้มีให้เห็นกับช่องดิจิทัลน้องใหม่ ที่ดึงนักแสดงเบอร์ใหญ่จากหลายค่ายย้ายมา แต่ดูกระแสของละครยังไม่แรงเท่างบที่ทุ่มทุนไปถึง 220 ล้านบาท
บ้านสมเด็จโพลล์ ยังสำรวจกลุ่มผู้ชมช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา (2559) พบว่าละครทีวีและบันเทิงยังเป็นสิ่งที่สร้างเรตติ้งเป็นอับต้นๆ ทั้ง ช่อง 3 ช่อง 7 และดิจิทัลน้องใหม่ ช่องอย่างช่อง One และ GMM รวมถึง ช่อง 8 จึงติดโผ 5 อันดับความนิยม
ก้าวแรกละครดิจิทัลยังต้องประคองตัว หลายช่องที่ทำธุรกิจบันเทิงมาก่อน เลือกใช้วัตถุดิบที่พอมีมาช่วยออมเงินทุน ทั้งรายการเก่าและเพลงเก่า ที่นำมาผูกเรื่องใส่บทเป็นซีรี่ย์ ทั้ง Love is The Series จากบทเพลงรักในความทรงจำของ บอย โกสิยพงษ์ และโปรเจกต์ Gmmbravo ขนเพลงดังในสังกัดมาแปลงเป็นซีรีย์ได้กว่า 10 เรื่อง
เมื่อยืนยันว่าละครยังขายได้ ทว่า แบบไหนถึงจะถูกใจผู้ชม คนผลิตละครทีวีดิจิทัลจึงไม่เพียงต้องจับทาง แต่ที่ขาดไม่ได้คืออย่าลืมเอาใจคนดูมาใส่ไว้ใจคนทำ