ใส่ใจทั่วถึงเหมือนพี่น้อง เพราะมีกันไม่ถึง 10 คน เด็กๆ วัยมัธยมในสังกัดของ ชิ อนุชา นักปั้นชื่อดัง ที่อยู่ในช่วงตั้งไข่ก่อนเข้าวงการ ดูแลให้หมดทั้งจัดเตรียมภาพถ่ายประกอบโปรไฟล์ พาเด็กๆ เรียนรู้สู้แสงไฟโชว์ตัวตามอีเวนต์ แนะนำให้รู้จักสื่อมวลชน ทั้งหมดนี้นักปั้นรุ่นใหญ่ต้องควักทุนส่วนตัวงานนึงไม่น้อยกว่า 5,000 บาท ค่าเนรมิตให้เด็กๆ ดูดี
ประสบการณ์เกือบ 30 ปีที่สรรหาศิลปินป้อนค่ายเพลงใหญ่ ทั้ง โดม ปกรณ์ ลัม, ดัง พันกร, 4 สาววงเกิร์ลลี่เบอร์รี่ จนวันนี้เปิดบริษัทเล็กๆ ของตัวเอง ด้วยเห็นโอกาสจากช่องทีวีดิจิทัลที่ต้องการนักแสดงหน้าใหม่มาหมุนเวียนกับนักแสดงหน้าเดิม นักปั้นวัย 46 ปีมีช่องทางดันเด็กเพิ่ม ด้วยการถ่ายแบบขึ้นปกในนิตยสารทำเอง หาสปอนเซอร์ เป็นสถาบันเสริมความงามและคอร์สการแสดง ไม่ต้องจ่ายค่าสนับสนุนเป็นเงิน เพียงให้เด็กในสังกัดได้ใช้บริการฟรี เป็นการแบ่งเบาทุนทรัพย์ของนักปั้น
นักปั้น ก็ไม่ต่างจากนักลงทุน ต้องรู้จักวางแผนระยะยาว การจะเลือกปั้นดาวหรือเดือนยังต่างกันทั้งความยากง่ายและงบประมาณ อย่างนักปั้นมือทอง "เอ ศุภชัย" ประกาศว่าจะปั้นแต่นักแสดงชายเท่านั้น เพราะดูแลง่าย ขณะที่นักแสดงหญิงต้องมีค่าใช้จ่ายมากว่าทั้งเรื่องฝึกบุคลิก การแสดง และที่สำคัญคือการลงทุนความงามที่อาจต้องใช้ทุนหนา เพราะต้องพึ่งศัลยกรรม
ส่วนนักปั้นตาคม "ปิ๊ก ชาญฉลาด ทวีทรัพย์" มีหลักการเบื้องต้น คือเลือกความสามารถมากกว่าหน้าตา มองจุดคุ้มทุนด้วยการปั้นไว้ตั้งแต่เด็ก อายุน้อยสุดในสังกัดเวลานี้ คือ 9 ขวบ วางพื้นฐานด้วยเงินลงทุนต่อคนอยู่ 6 หลักฝึกฝนทักษะรอบด้าน ปิ๊ก มองว่าการปั้นนักแสดงชายดูจะได้เปรียบกว่า โดยเฉพาะการต่อยอดเรื่องการตลาดจากฐานแฟนคลับสาวๆ มีภาพสำเร็จให้เห็นจากการปั้นซุปตาร์ "เจมส์จิ"
นักปั้นยุคไอที ต้องตีโจทย์จากกระแสสื่อสังคมออนไลน์อย่างการดึงเน็ตไอดอลที่กำลังดังมาปั้นต่อ ขณะเดียวกัน ยังต้องมีประวัติขาวสะอาด แม้ดาราในมือจะดังได้ ก็ใช่ว่าจะสำเร็จดั่งใจผู้ปั้น เพราะการรักษากระแสให้อยู่นานด้วยภาพลักษณ์ที่ดี ยังต้องมาจากความรอบคอบเฝ้าระวังทั้งการงานและเรื่องส่วนตัว ที่สำคัญยังต้องเผื่อใจ หากนกน้อยอยากโผจากรัง นักปั้นคงต้องมองไปข้างหน้า และเตรียมฟูมฟักสร้างลูกรักคนใหม่