เครือข่ายป้อมมหากาฬค้านรื้อบ้าน 10 หลังออกจากชุมชน

สังคม
28 ก.ย. 59
07:34
311
Logo Thai PBS
เครือข่ายป้อมมหากาฬค้านรื้อบ้าน 10 หลังออกจากชุมชน
ชาวชุมชุมมป้อมมหากาฬเเละภาคีเครือข่าย เดินทางเข้าไปร้องเรียนขอความเป็นธรรม ค้านการรื้อถอนชุมชมในทุกรูปเเบบ

วันนี้ (28 ก.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นอีกวันที่ทางชุมชนป้อมมหากาฬ จะรื้อถอนบ้านออกจำนวน 10 หลังตามที่ตกลงไว้กับกรุงเทพมหานคร โดยเจ้าของบ้านจะเป็นผู้รื้อถอนเะอง แต่ชาวชุมชนป้อมมหากาฬบางส่วนเเละเครือข่ายไม่เห็นด้วย โดยยื่นหนังสือคัดค้านการรื้อถอนทุกรูปแบบต่อนายกรัฐมนตรีผ่าน ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

น.ส.อินทิรา วิทยสมบูรณ์ นักกิจกรรมทางสังคมที่เคลื่อนไหวร่วมกับชุมชนป้อมมหากาฬ กล่าวว่า ขณะนี้ ม.ร.ว.ปนัดดา ดิศกุล ได้ลงนามและส่งต่อเรื่องไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีแล้ว

ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัจจุบันเหลือบ้านในชุมชนป้อมอีก 38 หลัง ที่ยังไม่ได้ย้ายออก แต่ในจำนวนนี้หลายหลังที่พร้อมจะย้ายออกและมีบางบ้านที่อยากย้าย แต่ถูกบางกลุ่มต่อต้านคัดค้าน เเต่จะขอความร่วมมือให้ทั้ง 38 หลังที่เหลือ รื้อย้ายให้เสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคม 2559

ด้านนายวัลลภ สุวรรณดี กล่าวว่ากรณีที่ชุมชนยื่นข้อเรียกร้องขอแบ่งปันที่ดิน (Land Sharing) โดยการเช่าที่ดินบริเวณป้อมมหากาฬ ประมาณ 1 ไร่ เพื่ออยู่อาศัยในลักษณะชุมชนในสวนสาธารณะ โดยมีนักวิชาการทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ตลอดจนสถาบันและองค์การเอกชนสนับสนุน และร่วมผลักดันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากรัฐบาลและ กทม.มาโดยตลอด

ส่วนการจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบภายในพื้นที่ ควรได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการโครงการกรุงรัตนโกสินทร์ก่อน เพราะการให้ชุมชนอาศัยอยู่ในป้อมมหากาฬต่อไป ไม่ว่าจะในรูปแบบการให้เช่าหรือให้อาศัยฟรี จะต้องพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ เช่น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประมวลกฎหมายที่ดิน กฎหมายเกี่ยวกับโบราณสถาน โบราณวัตถุ กฎหมายผังเมือง กฎหมายว่าด้วยเวนคืนอสังหาริมทรัพย์และรัฐธรรมนูญด้วย

ทั้งนี้ กทม.พร้อมให้ความช่วยเหลือชาวชุมชนในการรื้อถอน รวมทั้งการขนย้ายไปยังที่แห่งใหม่ จากนั้นจะดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ควบคู่กับการอนุรักษ์ป้อมมหากาฬและกำแพงเมืองต่อไป

ทั้งนี้ กทม.จะเข้าสนับสนุนการขนย้ายทรัพย์สินให้กับเจ้าของบ้าน ที่แจ้งให้ กทม.เข้ารื้อย้าย และมีการลงนามเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน โดย กทม.ให้เจ้าของบ้านเป็นผู้ดำเนินการรื้อถอนเอง เพื่อลดปัญหาความขัดแย้ง แต่จนถึงขณะนี้ เจ้าของบ้านยังไม่สามารถเข้ารื้อถอนบ้านเรือนได้ เนื่องจากชาวบ้านบางส่วนที่คัดค้าน นั่งขวางประตู และปิดพื้นที่ห้ามบุคคลภายนอกเข้า-ออก

นายพรเทพ บูรณบุรีเดช รองประธานชุมชนป้อมมหากาฬ ยืนยันว่าจะไม่ให้เจ้าหน้าที่ กทม.เข้ามาดำเนินการภายในพื้นที่ แต่หากเจ้าของบ้านที่ความประสงค์จะเข้ารื้อถอนบ้านเรือนเอง สามารถเข้ามาพูดคุย แต่ห้ามมีการรื้อถอนบ้านเรือนจนกว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการพหุภาคี

ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 2559 กทม.รื้อถอนบ้านเรือนในชุมชนป้อมมหากาฬไปแล้ว 18 หลัง ขณะนี้เหลือบ้านที่ต้องรื้อย้ายอีกทั้งหมด 43 หลัง จากทั้งหมด 61 หลัง ซึ่งตามแผนการรื้อถอนของ กทม.จะต้องแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนกันยายน 10 หลัง เดือนตุลาคม 11 หลัง และเดือนพฤศจิกายนอีก 16 หลัง เพื่อให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้

ขณะที่บริเวณป้อมมหากาฬ มีกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ เขตพระนครและสำนักการโยธา ร่วมเฝ้าสังเกตการณ์ และนำรถบรรทุกมาเตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกในการขนย้าย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง