เปิดใจ "อรรชกา" กรณีม.44 ปลดล็อกเหมืองแร่ทองคำ

เศรษฐกิจ
15 ธ.ค. 59
11:24
566
Logo Thai PBS
 เปิดใจ "อรรชกา" กรณีม.44 ปลดล็อกเหมืองแร่ทองคำ
รัฐมนตรีอุตสาหกรรม ยอมรับ ทำเหมืองทองคำไม่คุ้มสูญเสียทรัพยากร-กระทบคุณภาพชีวิต มั่นใจ นโยบายหยุดเหมืองแร่ ตาม ม.44 ไม่กระทบนักลงทุนต่างชาติ พร้อมให้ความเป็นธรรมกับเอกชน พร้อมเตรียมทบทวนขุดแร่ทุกชนิด

วันนี้(15 ธ.ค.2559) นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม ระบุว่า คำสั่งของหัวหน้า คสช. ตาม ม. 44 ที่มีผลทำให้เหมืองทอง ต้องระงับการประกอบกิจการ นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560 และคำสังนี้ มีผลต่อนโยบายการทำเหมืองแร่ทองคำในอนาคต ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม เห็นว่าประเทศไทยมีแนวทางพัฒนาพื้นที่เพื่อให้เกิดรายได้ด้านอื่นๆ ได้คุ้มค่ากว่าการระเบิดพื้นที่เพื่อทำเหมืองทองคำ หรือเหมืองอื่นๆ 

นางอรรชกา ยอมรับว่า กรมที่ดูแลเหมืองแร่ ได้บอกว่าอาจจะคุ้มค่าสำหรับการทำเหมืองแร่ แต่ส่วนตัวได้ หารือ และให้นโยบายกับกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) หลายครั้งว่าอนาคตการทำเหมืองแร่นั้น อาจไม่ใช่กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญเหมือนอดีต ปัจจุบันมีทางเลือกอื่นที่สร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างยั่งยืนกว่า เช่น ภาคอุตสาหกรรม บริการ การท่องเที่ยว ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าการทำเหมืองแร่ เพราะการทำเหมืองนั้น ต้องคิดด้วยว่าจะทำอย่างไรหลังปิดเหมืองแล้ว เพราะการก่อสร้างเหมืองใช้พื้นที่ใหญ่ขนาดนี้ การฟื้นฟูจะทำให้อย่างไร ให้กลับไปเป็นป่าเขียวเหมือนเดิมได้อย่างไร

ส่วนแนวทางการเดินหน้าเหมืองแร่ทองคำต่อไปนั้น ขึ้นอยู่กับผลศึกษาทางวิชาการและวิทยา ศาสตร์ ซึ่งทุกฝ่ายต้องให้การยอมรับด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่มีผลสรุปที่ชัดเจน ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล

ส่วน พ.ร.บ.แร่ ที่ผ่านที่ประชุม สนช.นั้น เชื่อว่า จะไม่มีผลต่อการเดินหน้าเหมืองแร่ทองคำในอนาคตให้เกิดง่ายขึ้น และการส่งเสริมการทำเหมืองแร่ ต้องหารือกันใหม่ว่า จะมีนโยบายอย่างไร หากจะเริ่มใหม่ก็ต้องเริ่มต้นจากนโยบาย มียุทธศาสตร์และแผนแม่บทที่ชัดเจน เพื่อทำให้การอนุมัติ สำรวจ หรือให้สัมปทานการทำเหมืองแร่ชัดเจนขึ้น จากเดิมที่มองแค่ว่า หน่วยเกี่ยวข้องก็อนุมัติส่งเสริมให้ทำกันไปได้เรื่อยๆ แต่ปัจุจุบันต้องคิดด้วยว่า ทำแล้วประเทศคุ้มมากน้อยแค่ไหน การทำเหมืองบริษัทเอกชนได้ประโยชน์แน่ แต่ประเทศได้ประโยชน์คุ้มค่ากับที่ให้ลงทุนในทรัพยากรหรือไม่


รัฐมนตรีอุตสาหกรรม บอกด้วยว่า คำสั่ง ม.44 ที่เกิดขึ้น การตัดสินใจแบบนี้ รู้ดีว่า ทำให้มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่พอใจ แต่ขอให้มองระยะยาวในแง่ความยั่งยืนของการพัฒนาพื้นที่ และคุณภาพชีวิตประชาชน การตัดสินใจ ใช้ ม. 44 ไม่ได้เกี่ยวว่า เป็นนักลงทุนต่างชาติ หรือ ไม่ใช่ต่างชาติ ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร และยืนยันว่า พร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับบริษัทในอนาคต 

ขณะนี้นักลงทุนจากประเทศออสเตรเลียในฐานะผู้ถือหุ้นของ บริษัท อัคราฯ ยังไม่ได้ติดต่อขอเข้าพบ และทางกระทรวงอุตสาหกรรมเอง ก็ไม่มีอะไรจะหารือ แต่หากทางนั้นมีข้อสงสัย สามารถเข้าพบ และกระทรวงฯ ก็พร้อมชี้แจง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง