เปิดโปง "ส่วย" ชายแดนแม่ฮ่องสอน "ค้าไม้- คนไร้สัญชาติ"

อาชญากรรม
22 พ.ค. 60
12:38
1,730
Logo Thai PBS
เปิดโปง "ส่วย" ชายแดนแม่ฮ่องสอน "ค้าไม้- คนไร้สัญชาติ"
สภาพลเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบธุรกิจมืดชายแดน จ.แม่ฮ่องสอน พบเรียก รับส่วย ชายแดนไทย-เมียนมา ตามจุดผ่อนปรนการค้าชายแดน การลักลอบตัดไม้หายาก

วันนี้(22 พ.ค.2560) ทีมข่าวไทยพีบีเอส ได้รับการแจ้งเบาะแส ให้ตรวจสอบจุดผ่อนปรนชายแดนไทยกับเมียนมาของจังหวัดแม่ฮ่องสอนทั้ง 5 แห่ง ว่ามีเจ้าหน้าที่ภาครัฐเรียกรับผลประโยชน์ หรือ ส่วยชายแดนจากผู้ประกอบการหรือไม่

ทีมข่าว สุ่มสำรวจที่จุดผ่อนปรนบ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย ติดแม่น้ำสาละวิน พบ โค กระบือ ลำเลียงมาทางเรือจากฝั่งเมียนมา เมื่อถึงฝั่งจะมีเจ้าหน้าที่ศุลกากรด่านแม่สะเรียง และเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เข้าตรวจและลงทะเบียนจ่ายภาษี จากนั้นจะถูกลำเลียงขึ้นรถบรรทุก ไปกักโรคอีก 21 วัน ในฟาร์มของเอกชน

ทีมข่าว ขับรถตามเพื่อสังเกตพฤติกรรม ตลอดเส้นทางรถขนโค กระบือ จะวิ่งผ่านด่านตรวจของตำรวจในพื้นที่ และด่าน อส. ทุกอย่างยังปกติ จนกระทั่งมีรถคันหนึ่ง หยุดพักรถ ทีมข่าวเข้าไปสอบ ถามข้อมูลกับคนรถ เค้ายอมรับว่า พ่อค้าโคกระบือต้องจ่ายเงิน หรือ ที่เรียกว่า ส่วย เพื่ออำนวยความสะดวกในธุรกิจ

นอกจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะมีแนวเขตติดกับชายแดน ยังมีไม้หายาก เช่น ป่าสัก ป่าแดง และป่าเบญจพรรณ ทำให้มีการบุกรุกลักลอบตัดต้นไม้

ทีมข่าวไทยพีบีเอส ลงพื้นที่สำรวจป่าสาละวิน ที่อยู่ในเขตอำเภอแม่สะเรียง และอำเภอสบเมย พบต้นสักยืนต้นตายจำนวนมาก เมื่อสำรวจโคนต้น จะเห็นร่องรอยถูกตัดให้ยืนต้นตาย วิธีการนี้เป็นที่นิยมของขบวนการลักลอบตัดไม้ เพราะจะได้ไม้ที่แห้งน้ำหนักเบาง่ายต่อการขนส่ง

ที่ปรึกษาเครือข่ายองค์กรชุมการจัดการทรัพยากร ลุ่มน้ำสาละวินให้ข้อมูลว่า ขบวนการลักลอบตัดไม้สาละวิน แบ่งเป็นหลัก 3 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นพ่อค้าชาวจีน และชาวกะเหรี่ยงเขตประเทศเพื่อนบ้าน

 

 

กลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มนายทุนในเขตไทยที่มีใบสั่งไม้ จากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านและว่าจ้างชาวบ้านเข้าไปตัดไม้ และอีกกลุ่มเป็นชาวบ้านที่รับจ้างตัดและชักลากไม้ออกจากป่า จากนั้นผูกเป็นแพล่องแม่น้ำสาละวินส่งเข้าประเทศเพื่อนบ้านที่มีโรงงานเลื่อยแปรรูปไม้แล้วส่งกลับมาที่ไทย

 

นอกจากนี้ ยังมีการเรียกผลประโยชน์จากคนไร้สัญชาติ ขบวนการรับจ้างทำบัตรประจำตัวประชาชนและสวมบัตรให้เป็นคนไทย แต่ต้องจ่ายค่าดำเนินการคนละไม่ต่ำกว่า 40,000-

50,000 บาท บางคนถูกหลอกให้จ่ายเงินแต่ก็ไม่ได้บัตร ที่ผ่านมา สภาพลเมืองจังหวัดแม่ ฮ่องสอนได้ยื่นหนังสือผ่าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อเรียกร้องให้เข้ามาตรวจสอบและแก้ปัญหา

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง