เกือบ 5 ปีแล้วที่นายอำนาจ ภู่เกตุ ทำหน้าที่เป็นนายสถานีรถไฟปัตตานี แต่หลังถูกนำเอกสารการเบิกจ่ายเงินล่วงเวลา (โอที) เดือน พ.ค.กว่า 100,000 บาท มาเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ส่งผลอย่างมากต่อการกำลังใจในการทำหน้าที่ ทั้งที่การเบิกจ่ายดังกล่าว นายอำนาจยืนยันว่า เป็นการจ่ายโอทีตามระเบียบ เนื่องจากเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ได้รับมอบหมายงานให้ควบคุมงานซ่อมบำรุงทางและปรับเปลี่ยนรางรถไฟ ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.00 น. จนถึงช่วงเช้าของทุกวัน อีกทั้งสถานีรถไฟปัตตานี มีนายสถานีเพียงคนเดียว ทำให้ต้องปฎิบัติงานร่วมกับผู้ใต้บังคับบัญชา คือ พนักงานคุมประแจ และพนักงานกั้นทางเกือบตลอดทั้งวันทั้งคืน
พร้อมนำเอกสารโทรเลขของพนักงานควบคุมการเดินรถที่ใช้ในการเปิดและปิดทางระหว่างการเข้าซ่อมบำรุง ในช่วงกลางคืนมาเป็นหลักฐาน เพื่อแสดงว่า เงินโอทีที่เพิ่มขึ้น กว่า 70,000 บาท จากปกติที่จะได้ค่าโอทีเดือนละประมาณ 27,000 บาท เป็นการเบิกตามจริง
ทั้งนี้ การคำนวณเงินโอทีของพนักงานการรถไฟแต่ละคน แต่ละตำแหน่งจะไม่เท่ากัน โดยอัตราการจ่ายเงินโอที จะถูกคำนวนจากฐานเงินเดือนของแต่ละคน ที่จะนำมาหารจำนวนวัน 30 วันต่อเดือน และนำมาหารชั่วโมงการทำงาน 8 ชั่วโมงในแต่ละวันตามที่กฎหมายกำหนด จึงจะเป็นตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโอที ซึ่งในกรณีของนายอำนาจ มีเงินเดือน 61,210 บาท เมื่อนำมาหาร 30 วันใน 1 เดือน และหาร 8 ชั่วโมงในเวลาทำงานปกติ จะได้โอทีชั่วโมงละประมาณ 255 บาทรวม 401 ชั่วโมง ทำให้มีเงินโอทีในเดือน พ.ค.เป็นเงินประมาณ 102,271 บาท
ปัจจุบัน สถานีรถไฟในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่สถานีรถไฟบ้านตาแปด อ.เทพา จ.สงขลา ไปจนถึงสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จำนวน 26 สถานี มีนายสถานีประจำการเพียงคนเดียว เว้นแต่สถานีรถไฟยะลา และสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ที่มีนายสถานีและผู้ช่วยนายสถานีรวม 2 คน ทำให้เจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถไฟอีก 24 สถานี ต้องปฎิบัติงานตั้งแต่เวลา 06.00 - 18.30 น. ของทุกวันจนหมดขบวนรถ กล่าวคือ ในแต่ละวันพนักงานจะมีเงินโอทีอยู่แล้วตกเฉลี่ยวันละ 4 ชั่วโมง ซึ่งมากกว่าพื้นที่อื่นๆที่จะมีพนักงานของการรถไฟสับเปลี่ยนปฎิบัติหน้าที่ตามตารางเวร
นายบรรหาร โกบยาหยัง ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้ การรถไฟแห่งประเทศไทย ระบุว่า ก่อนหน้านี้การรถไฟจ่ายเงินล่วงเวลาให้พนักงานในลักษณะเหมาจ่าย จนกระทั่งเมื่อ 3 ปีก่อนได้เกิดการฟ้องร้องและศาลมีคำสั่งให้เบิกจ่ายเงินโอทีตามที่ปฎิบัติงานจริง ซึ่งการเบิกจ่ายของพนักงานการรถไฟในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในส่วนของฝ่ายปฏิบัติการเดินรถ ผู้ขอเบิกจะต้องจัดทำใบเบิก โดยมีเอกสารการปฎิบัติหน้าที่แนบมาด้วย ก่อนจะส่งให้ฝ่ายปฎิบัติการเดินรถแขวงหาดใหญ่ ซึ่งมีสารวัตรงานเดินรถแขวงหาดใหญ่เป็นผู้อนุมัติ หลังจากนั้นจะส่งต่อไปยังฝ่ายการเงินของการรถไฟแห่งประเทศไทยที่กรุงเทพมหานคร โดยเอกสารการเบิกเงินของนายอำนาจยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาของสารวัตรงานเดินรถแขวงหาดใหญ่ และยังไม่ได้เบิกจ่ายแต่อย่างใด