กรณีเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี ร่วมกับอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ปะทะกลุ่มชาวเวียดนามที่เข้ามาลักลอบตัดไม้หอมกฤษณา บนเขาแม่กะสี เขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา และชาวเวียดนามถูกยิงเสียชีวิต 1 คน
วันนี้ (8 ก.ย.2560) น.ส.วีรยา โอชะกุล หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สนธิกำลังร่วมกับหน่วยงาน ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และประชาชน ได้ออกปฏิบัติการและจับกุมผู้ต้องสงสัยชาวเวียดนามได้อีก 3 ราย ขณะนี้ได้นำล่ามชาวเวียดนาม มาช่วยร่วมสอบปากคำพนักงานสอบสวนที่สภ.แม่เปิน จ.นครสวรรค์ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการสอบสวนอยู่ โดยจะหาความเชื่อมโยงว่าเป็นขบวนการเดียวกับชาวเวียดนาม ที่เคยเข้ามาล่าเสือโคร่งในเขตป่ารอยต่อเขตทุ่งใหญ่นเรศวร อ.อุ้มผาง จ.ตากในช่วงปี 2554 หรือไม่ รวมทั้งกลุ่มคนไทยที่อาจจะอยู่ในขบวนการนี้ ซึ่งทั้งหมดจะต้องขยายผล
แกะรอยชาวเวียดนามผ่าน 4 จังหวัดถึงป่าแม่วงก์
ด้านพ.ต.ท.ไพโรจน์ สถิตย์พงษ์ สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่เปิน จ.นครสวรรค์ เข้าสอบปากคำนายฮอง วันไก นายเหงียน มี เรียน และนายเหงียน วัน เมง ผู้ต้องหาชาวเวียดนามอีก 3 คนที่เก่อเหตุยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้รับบาดเจ็บ เพื่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการในไทย โดยผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ แต่ยอมรับว่าเดินทางจากเวียดนาม ผ่านลาว เข้าไทย โดยผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองจ.หนองคาย เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นได้นั่งรถไปจ.อุดรธานี ต่อรถไปที่จ.พิษณุโลก เพื่อเข้าสู่จ.นครสวรรค์ ซึ่งตรงกับหลักฐานที่เจ้าหน้าที่มี
พร้อมยอมรับสารภาพว่า ได้ติดต่อกับผู้ร่วมขบวนการขับรถยนต์สีแดงมารับทีโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.นคร สวรรค์ เพื่อเข้าไปในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ใกล้วัดภูหยก อ.แม่เปิน จ.นครสวรรค์ จากนั้นได้เดินเท้าร่วมกับเพื่อน 4 คนเข้าไปบริเวณสันเขาแบ่งเขตแม่วงก์ กับห้วยขาแข้ง และเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ 2 ครั้ง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ ยังอยู่ระหว่างการติดตามหาอาวุธที่ใช้ยิงในการต่อสู้ และผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งยังไม่ยืนยันว่ามีคนไทยมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ 2504 มาตรา 16 ตัดไม้โดยไม่ได้อนุญาต และเข้าพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 13 และ พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ.2484 เก็บของป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
คาดคนไทยเอี่ยวตัดไม้หอมกฤษณาในป่าลึก
ขณะที่นายกิติพัฒน์ ธาราภิบาล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่งวงก์ ยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ว่าคดีนี้น่าจะมีคนไทยร่วมขบวนการ เนื่องจากพื้นที่อุทยานเป็นพื้นที่ป่ารก และสมบูรณ์ เป็นไปไม่ได้ว่า ผู้ต้องหาที่ไม่มีความคุ้นชินในพื้นที่จะสามารถเข้าไปในส่วนลึกของธรรมชาติที่มีความสมบูรณ์ได้ จึงต้องมีพรานป่านำทาง
เบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัติ ยังพบว่านายเหงียน วัน เมง หนึ่งในผู้ต้องหาได้เดินทางเข้าออกไทยหลายครั้ง ตั้งแต่ พ.ศ.2555-2560 สำหรับคดีนี้ ช่วงวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้พบเบาะแสในพื้นที่ป่าห้วยขาแข้ง ว่ามีผู้บุกรุกโดยมีการตั้งแคมป์ จึงได้ปูพรมตรวจสอบจนเกิดการประทะ เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา สันเขาแบ่งเขตแม่วงก์ กับห้วยขาแข้ง จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่งวงก์ ร่วมปูพรมตรวจสอบและเกิดการปะทะอีกครั้งวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ห้วยขาแข้งได้รับขาดเจ็บ 1คน ส่วนผู้ต้องหาถูกวิสามัญ 1คน และติดตามกดดันจับตัวได้ทั้งหมด 3 คน
