วันนี้ (20 พ.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. ตัวแทนชาวบ้านรอบเหมืองแร่ทองคำและภาคประชาสังคมจากกลุ่มประชาสังคมปฏิรูปทรัพยากรและทองคำ เดินทางมาที่สำนักงาน ป.ป.ช. สนามบินน้ำเพื่อยื่นหนังสือถึง น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ติดตามและชี้แจงการตรวจสอบ 19 ประเด็น ที่เคยยื่นร้องเรียนให้ตรวจสอบเกี่ยวกับการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำใน จ.พิจิตร เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน
นางวันเพ็ญ พรมรังสรรค์ แกนนำ เปิดเผยว่า การยื่นสอบสวนวันนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาเคยยื่นร้องเรียนให้ตรวจสอบตั้งแต่สมัยนายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานคณะอนุกรรมการสอบสวน และหลังจากนายวิชา ไม่ได้เป็นกรรมการแล้ว ทำให้ขณะนี้ยังไม่เห็นความคืบหน้า
นางวันเพ็ญ กล่าวถึงกรณีสังคมตั้งข้อสังเกตการใช้มาตรา 44 มาดำเนินการปิดเหมืองแร่ไม่ชอบธรรมว่า กรณีการใช้มาตรา 44 เป็นผลหนึ่งที่เกิดจากหน่วยงาน ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบโดยตรง ไม่ดำเนินการตามกฎหมายที่มีอยู่ เช่น ป.ป.ช. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ การใช้มาตรา 44 เป็นการระงับกิจการชั่วคราว เพื่อตรวจสอบความจริงจากข้อร้องเรียนที่ชาวบ้านยื่นให้กระทรวงอุตสาหกรรมตรวจสอบตั้งแต่ปี 2557 แล้ว เกี่ยวกับผลกระทบด้านสุขภาพที่มีสารโลหะหนักในร่างกาย และประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม แต่กระทรวงอุตสาหกรรมไม่ดำเนินการพิสูจน์ตามกฎหมายที่มีอยู่
น.ส.อารมณ์ คำจริง ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ที่ผ่านมา การลงพื้นที่ของ ป.ป.ช.ในพื้นที่ชุมชนรอบเหมืองแร่ ไม่ได้ตรวจสอบในประเด็นที่ยื่นร้องเรียน และไม่ตรงประเด็น
"การลงพื้นที่เจ้าหน้าที่มาถามว่า ชาวบ้านที่ยื่นร้อง มีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ทั้งๆ ที่คุณควรลงไปตรสจสอบว่าสิ่งที่ร้องเรียนเป็นอย่างไร เราพร้อมพาลงพื้นที่ไปชี้จุดแต่ละจุด หรือหลักฐานต่างๆ เราก็ส่งให้ตรวจสอบ แต่ตอนนี้ 2 ปีแล้ว ก็ยังไม่คืบหน้า" น.ส.อารมณ์ กล่าว
นอกจากนี้ ทางกลุ่มฯ ได้เรียกร้องให้ตรวจสอบประเด็นสินบนข้ามชาติที่ ป.ป.ช.อยู่ระหว่างสอบสวนว่ามีข้าราชการไทยเกี่ยวข้องกับการให้ใบอนุญาตสัมปทานกับบริษัทเหมืองแร่ทองคำแห่งหนึ่งของไทยด้วย
