กรณีที่สำนักนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ UNOHCHR เรียกร้องให้รัฐบาลไทยปล่อยตัวและยกเลิกข้อกล่าวหาผู้ชุมนุมทุกรายที่ถูกจับกุม ขณะเดินประท้วงอย่างสันติต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินขนาด 2,200 เมกะวัตต์ที่จังหวัดสงขลา
วันนี้ (30 พ.ย.2560) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลา โหม ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้าประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือสผ.โดยระบุว่า กรณีข้อเรียกร้องให้ยกเลิกข้อกล่าวหาแกนนำคัดค้านโรงไฟฟ้าเทพา จ.สงขลา ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด ให้ยกเลิกข้อกล่าวหาแกนนำคัดค้านโรงไฟฟ้าเทพา จ.สงขลา
ในเบื้องต้นไม่ได้ใช้เรื่องการเดินขบวนหรือชุมนุมเอาผิด แต่เป็นการใช้กฎหมายความผิดซึ่งหน้า และการขัดขวางการทำงานของตำรวจ ที่ผ่านมาได้ประนีประนอมโดยให้ประกันตัวไปแล้ว โดยขอปฏิเสธกรณีมือที่ 3 สร้างความขัดแย้งในพื้นที่ เพราะคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. ในพื้นที่ได้สร้างความเข้าใจอยู่แล้ว
"นักวิชาการ" กังวลสถานการณ์สุมเชื้อไฟรุนแรง
ส่วนกรณีการให้สัมภาษณ์ของ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรายการเดินหน้าประเทศไทยวานนี้ (29 พ.ย.) ที่พาดพิงแกนนำผู้ชุมนุมต่อต้านโรงไฟฟ้าเทพาคนหนึ่ง กำลังถูกมองว่า เป็นเหมือนการเติมเชื้อไฟให้กับเหตุกระทบกระทั่งระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่หรือไม่นั้น
แต่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า เป็นเพียงการตั้งข้อสังเกต เทียบเคียงกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น หลังสอบถามข้อมูล และยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้ควบคุมตัวแกนนำคนดังกล่าว ท่ามกลางข้อมูลที่มีความพยายามส่งต่อผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า แกนนำผู้ชุมนุมอาจถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้
ทั้งนี้ นายธีรวัฒน์ ขวัญใจ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ระบุว่า การให้ข้อมูลที่มีลักษณะบิดเบือนของบุคคลในภาครัฐ ในสถานการณ์เช่นนี้ เป็นเหมือนการเติมเชื้อไฟให้กับสถานการณ์ที่มีความเปราะบางอยู่แล้ว ให้อาจยิ่งบานปลายมากขึ้น ซึ่งผู้เกี่ยวข้องกำลังหารือกันว่า จะดำเนินการเพื่อปกป้องสิทธิของผู้ที่ถูกพาดพิงหรือไม่
พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า เชื่อมั่นว่า ทั้งฝ่ายรัฐ และกลุ่มผู้คัดค้านโรงไฟฟ้าเทพา ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว แต่อาจเกิดจากการข่าวที่ผิดพลาด แทนที่นายกรัฐมนตรี จะมีโอกาสได้รับฟังข้อมูล จากชาวบ้านในพื้นที่ กลับตามมาด้วยปัญหากระทบกระทั่งกัน พร้อมกับ 4 ข้อหาหนักของแกนนำ จากนี้การพูดคุยเป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะหากเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอีก สถานการณ์จะยิ่งบานปลาย
ส่วนกรณีกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า มาราปาตานี ออกแถลงการณ์เตือนให้รัฐบาลทบทวนโครงการโรงไฟฟ้าเทพา เพราะไม่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และสุ่มเสี่ยงจะเกิดความขัดแย้งรุนแรงตามมานั้น พล.อ.เอกชัย เห็นว่า เป็นท่าทีปกติของกลุ่มมาราปาตานี ที่อ้างอิงความต้องการของประชา ชนในพื้นที่ แต่ไม่ถึงกับเป็นการแย่งชิงมวลชน แต่หากภาครัฐยังคงใช้ความรุนแรง จะไม่สามารถยุติความขัดแย้งได้ และจะยิ่งทำให้ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนในพื้นที่ พร้อมให้กลับไปย้อนดูเหตุการณ์ที่ประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนใหญ่ลงประชามติไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ
เมื่อวานนี้ ช่วงค่ำ แกนนำเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่ถูกจับทั้ง 15 คน ถูกปล่อยตัวแล้ว และยืนยันจะเดินหน้าคัดค้านโครงการนี้ต่อไป