แจ้งตายผิด - โดนสวมบัตรประชาชน "หนุ่มศรีสะเกษ" ขอคืนสิทธิ์ ยังมีชีวิตอยู่

อาชญากรรม
19 ธ.ค. 60
19:42
4,957
Logo Thai PBS
แจ้งตายผิด - โดนสวมบัตรประชาชน "หนุ่มศรีสะเกษ" ขอคืนสิทธิ์ ยังมีชีวิตอยู่
นายสาคร สาชีวะ ขอคืนสิทธิ์ หลังตำรวจแจ้งตาย ญาติ เผย รู้สึกผิดปกติตั้งแต่ขอดูศพว่าอาจจะไม่ใช่นายสาคร แต่ตำรวยืนยันว่าใช่ เพราะศพมีบัตรประชาชน

นายสาคร สาชีวะ ชายที่ถูกระบุว่าตายไปแล้ว มาปรากฎตัวที่บ้านของตัวเองในจังหวัดศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา บรรดาญาติๆ ตกใจเพราะเผาศพไปเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา

วันนี้ (19 ธ.ค.2560) ญาติของนายสาคร เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการติดต่อจากตำรวจ สน.นางเลิ้ง ให้ไปรับศพนายสาครที่กรุงเทพฯ หลังจากเขาเสียชีวิต จึงได้เช่ารถไปรับศพ เมื่อเดินทางไปถึงตำรวจมอบใบมรณบัตรให้ แต่เมื่อสอบถามสาเหตุการตายและขอดูศพ กลับพบข้อสงสัยว่าทำไมศพมีฟันคู่หน้า เพราะนายสาครตัวจริงเป็นคนฟันหลอ ตำรวจยืนยันว่าใช่เพราะพบบัตรประชาชนอยู่ที่ผู้เสียชีวิต

 

 

นายสาคร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไปหางานทำที่กรุงเทพฯ อยากจะกลับบ้านแต่เงินไม่พอจึงไปทำงานประมง แต่ต่อมาทำบัตรประชาชนหาย คนที่เก็บได้ไม่ยอมคืนให้ จึงไปขอทำบัตรประชาชนใบใหม่

"ผมออกจากบ้านไป 2 ปี ไม่รู้ข่าวทางบ้านเลย ขาดการติดต่อกับครอบครัว ผมมาถึงบ้าน เดินเข้าบ้าน แม่ก็ งง แม่คิดว่าผมตายไปแล้ว แม่บอกว่าตายแล้วยังกลับมาบ้านได้อีก ผม งง ผมหมดแรงเลย" นายสาคร กล่าว

เมื่อสำนักทะเบียนท้องถิ่นเขตพระนคร ออกใบมรณบัตรและแจ้งมายังภูมิลำเนา ทำให้นายสาครถูกจำหน่ายตายออกจากทะเบียนบ้าน นายพรชัย วงศ์งาม นายอำเภอโนนคูณ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ทางอำเภอเตรียมรวบรวมหลักฐาน พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงจากญาติ เพื่อเพิ่มชื่อคืนสิทธิสภาพบุคคลและเพิกถอนใบมรณบัตร

ตำรวจ ชี้แจง สาเหตุยืนยันศพ "นายสาคร"  

ตำรวจ สน.นางเลิ้ง ชี้แจงว่า ได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่ในหอพักแห่งหนึ่ง จึงดำเนินการตรวจสอบ พบเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน และพบเอกสารหลักฐานเป็นสำเนาบัตรประชาชนอยู่ภายในห้อง ระบุชื่อนายสาคร สาชีวะ อยู่ที่จังหวัดศรีสะเกษ แต่มีข้อสังเกตว่าภาพในสำเนาบัตรจางๆ เหมือนถูกขูดออก เหลือแต่ชื่อที่อยู่ที่เห็นชัด

ตำรวจพบหลักฐานอีกอย่าง เป็นบัตรพนักงานรักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่ง บัตรพนักงานมีรูปชัด หน้าเหมือนผู้เสียชีวิต ใช้ชื่อนายสาครเหมือนกัน จึงมั่นใจว่าผู้เสียชีวิตคือนายสาคร เมื่อนำไปตรวจสอบในทะเบียนราษฎร์ จึงติดต่อให้ญาติมารับศพ โรงพยาบาลวชิระตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิต พบมีพิษในกระแสเลือด

เมื่อไปตรวจสอบหอพักของผู้เสียชีวิต ผู้ดูแลหอพักนำเอกสารที่เก็บไว้ในห้องมาให้ดู ปรากกฎว่ามีเอกสารที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคล เอกสารมีภาพของนายสาครชัดเจน ไม่ได้ถูกขูดออก แต่ตำรวจไม่ได้เก็บไป ตำรวจเก็บแต่สำเนาบัตรที่ภาพไม่ชัดไปเทียบกับบัตรพนักงานเท่านั้น

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง