เศร้า! ทูตสันถวไมตรีแห่งเขาอ่างฤาไน "ช้างหางด้วน งาเดียว" ตาย

สิ่งแวดล้อม
16 เม.ย. 61
14:41
1,870
Logo Thai PBS
เศร้า! ทูตสันถวไมตรีแห่งเขาอ่างฤาไน  "ช้างหางด้วน งาเดียว" ตาย
สัตวแพทย์ ยก "ช้างหางด้วน งาเดียว" ช้างป่าเขาอ่างฤาไนเป็นทูตสันถวไมตรี เชื่อมความรักและผูกพันของชาวบ้านกับสัตว์ป่า ชาวบ้านไม่พอใจ จี้เอาผิดนายทุนทำรั้วไฟฟ้าช็อตช้างตาย หลังพบช้างป่าตายในไร่สับปะรดเป็นตัวที่ 2 ห่างกันเพียง 20 วัน

จากเหตุการณ์ "ช้างหางด้วน งาเดียว" ช้างป่าเขาอ่างฤาไน ตัวผู้ อายุ 30 ปี น้ำหนักประมาณ 4,000 กิโลกรัม ลักษณะมีงาซ้ายข้างเดียว ยาว 44 ซม. และหางด้วน ถูกรั้วไฟฟ้าช็อตตายบริเวณไร่สับปะรด หมู่ 2 ต.พลวงทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี เมื่อวานนี้ (15 เม.ย.)

 

ยก "ช้างหางด้วน งาเดียว" ทูตสันติภาพ

สัตวแพทย์คนหนึ่งที่เคยรักษา "ช้างหางด้วน งาเดียว" เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ 7-8 ปี สัตวแพทย์และชาวบ้านเคยให้ความช่วยเหลือ "ช้างหางด้วน งาเดียว" ขณะได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับช้างสีดอ ทำให้งาหักหนึ่งข้างและมีเลือดไหล ซึ่งเจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้ตามหาตัวเพื่อฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักและยาปฏิชีวนะจนช้างรอดชีวิต สร้างความรักและความผูกพันของคนและช้าง

 

ช้างป่าตัวดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง มีความฉลาด ไม่ดุร้าย หรือก้าวร้าว และมีทัศนคติที่ดีกับคน เป็นเหมือนทูตสันถวไมตรี ทำให้ชาวบ้านและสัตว์ป่าอยู่ร่วมกันได้ อีกทั้งเจ้าหน้าที่และชาวบ้านสามารถถ่ายภาพ หรือวิดีโอได้ในระยะใกล้ชิด ที่ผ่านมาพื้นที่นี้ไม่เคยพบปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับช้าง และไม่เคยมีเหตุการณ์ช้างถูกไฟฟ้าช็อต จนกระทั่งมีการปลูกไร่สับปะรดเมื่อไม่นาน ทำให้ช้างติดใจในรสชาติและลงมาหากิน

 

เขามีทัศนคดีที่ดีกับคน เห็นว่าคนเป็นมิตรกับเขา ไม่ได้ทำร้ายเขา รู้สึกผ่อนคลาย ปลอดภัย ในภาพคลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่นั้นจะเห็นว่าช้างแกว่งหูและหาง แสดงว่ามีความสุข ไม่ได้หวาดระแวง หวาดกลัว

 

ชาวบ้านไม่พอใจ จี้เอาผิดนายทุนเจ้าของไร่


สัตวแพทย์ ยืนยันว่า ชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่รู้สึกรักและผูกพันกับช้างตัวนี้ รวมทั้งรู้วิธีรับมือและจัดการสถานการณ์ หากพบช้างลงมาหากินก็จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ ดูแลความปลอดภัยทั้งคนและช้าง รวมทั้งผลักดันช้างออกจากพื้นที่ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าบริเวณที่ช้างตายเป็นจุดเดียวกันกับที่เคยเกิดเหตุการณ์ช้างถูกรั้วไฟฟ้าช็อตตายและแอบฝัง เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นการใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ 220 โวลต์ เมื่อดูดช้างเข้าไป ไฟฟ้าจะวิ่งไปในอวัยวะ สมอง หัวใจ ทำให้หัวใจเต้น 50 ครั้งต่อวินาที ประกอบกับความร้อนที่อยู่ในเส้นลวดจะไหม้บริเวณผิวหนัง หรืองวง ทำให้อุณภูมิเลือดในร่างกายสูงและตาย เหตุการณ์นี้เป็นครั้งที่ 2 แม้เจ้าหน้าที่จะรื้อรั้วทั้งหมดแล้ว แต่ก็นำมาต่อใหม่อีก ขอให้สังคมเข้าใจว่าเป็นพฤติกรรมของบุคคลคนเดียวเท่านั้นที่ยังใช้วิธีการแบบเดิม สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่อย่างมากและทำให้เสียภาพลักษณ์


เป็นพฤติกรรมของคนคนหนึ่งที่ทำมาแล้ว 1 ครั้ง แล้วยังดื้อที่จะทำอีก สังคมจะต้องจี้ว่าคนคนนี้่เป็นใคร ทำไมถึงทำแล้วทำอีก และบทลงโทษจะเป็นอย่างไร คนในท้องที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาก็รักช้างและเสียใจกับเหตุการณ์นี้ อย่าให้ชาวบ้านเป็นจำเลย เพราะเป็นพฤติกรรมของคนคนเดียว

 

 

 

 ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไฟช็อต "ช้างงาเดียว หางด้วน" ดาวเด่นป่าเขาอ่างฤาไนตาย 

11 ชีวิตช้างป่าสังเวย "รั้วไฟฟ้า" ใครรับผิดชอบ? 

แอบฝัง ช้างป่าเขาอ่างฤาไนถูกไฟฟ้าช็อตล้ม 

เอาผิด 3 ข้อหา คนดูแลไร่แอบฝังซากช้างป่าถูกไฟฟ้าช็อต  

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง