วันนี้ (10 พ.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทหาร และชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ประชุมหารือเพื่อเข้าการตรวจสอบที่พัก และรีสอร์ต จำนวน 135 แห่งในพื้นที่ตำบลเขาค้อ สะเดาะพง ริมสีม่วง และหนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ หลังพบว่าอยู่ในพื้นที่ของกองทัพบก ที่ขอใช้ประโยชน์ที่ดินจากกรมป่าไม้ ในช่วงสงครามสมรภูมิเขาค้อปี 2511 -2525
เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่า จะแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ออกเป็น 5 ชุด เพื่อตรวจสอบดำเนินคดีคามกฏหมายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 15 คดี โดยทหารและป่าไม้ จะเป็นผู้กล่าวโทษร่วมกัน มีข้อมูลเบื้องต้นว่ามีจำนวน 3 ราย จากทั้งหมด 135 ราย แจ้งความจำนงขอรื้อถอนเอง ซึ่งอยู่ระหว่างทำหนังสือคืนพื้นที่ให้กับกรมป่าไม้
โดยปฏิบัติการครั้งนี้จะเป็นเพียงการเข้าตรวจสอบ และรวบรวมหลักฐาน เพื่อให้แจ้งกล่าวโทษ ให้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ยังไม่ใช่ขั้นตอนการรื้อถอน
เนรมิต พรมทา รองประธานสภาองค์กรชุมชนตำบลเขาค้อ หนึ่งในคณะทำงาน ของสภาองค์กรชุมชนอำเภอเขาค้อ มองว่าไ ม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา เป็นเพียงการป้องกันไม่ให้ถูกตั้งข้อหา ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่รัฐปล่อยปะละเลย โดยปี 2557 จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ตั้งคณะทำงาน และรวบรวมข้อเสนอในการจัดการพื้นที่ไปแล้ว แต่ไม่ได้รับการแก้ไข
ก่อนหน้านี้ วันที่ 10 พ.ย. 2529 มีการประกาศให้พื้นที่เขาค้อเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งกองทัพภาคที่ 3 ไม่ได้ยื่นขอใช้ประโยชน์ต่อ ภายหลังทหารได้ที่เรื่องส่งมอบพื้นที่คืนกรมป่าไม้แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องการรุกพื้นที่ ทำให้กรมป่าไม้ ยังไม่อนุมัติการรับคืน
ข้อมูลจากกรมป่าไม้ ระบุว่า พื้นที่เป้าหมาย จำนวน 135 ราย อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาปางก่อและป่าวังชมภู พื้นที่อยู่ในเขตกองทัพภาคที่ 3 ขอใช้จากกรมป่าไม้ สิ่งก่อสร้างเป็นบ้านพักตากอากาศแบบถาวร ใน 4 ตำบลของเขาค้อ มีดังนี้ ต.เขาค้อ 40 ราย ตำบลสะเดาะพง 45 ราย ตำบลริมสีม่วง มี 29 ราย และต.หนองแม่นา 21 ราย โดยกำหนดแผนให้ดำเนินการ 10 รายต่อหนึ่งสัปดาห์ จนครบ 135 ราย และรายที่มีขนาดใหญ่มีอิทธิพล จะให้ชุดพยัคฆ์ไพร และ กอ.รมน.เข้าดำเนินการ