วันนี้ (29 พ.ย.2561) ยิว ฮอค โคว ผู้บริหารบริษัทเอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า บริษัทนำธุรกิจโรงเรียนนานาชาติเข้าตลาดหุ้น หวังพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทย พร้อมย้ำ บริษัทปฏิบัติตามกฎระเบียบทุกประการ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้แตกต่างจากโรงเรียนทั่วไป โดยยังไม่พิจารณาฟ้องกลับกลุ่มผู้อาจเข้าข่ายทุบราคาหุ้น หลังราคาปิดซื้อขายวันแรกต่ำกว่าราคาจอง
สำหรับราคาหุ้นบริษัทเอสไอเอสบีซึ่งเป็นหุ้นธุรกิจโรงเรียนตัวแรก ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดตลาดซื้อขายวันแรกที่ 4 บาท 36 สตางค์ ซึ่งต่ำกว่าราคาเปิดจอง 5 บาท 20 สตางค์ต่อหุ้น ลดลงร้อยละ 16.15 คิดเป็นมูลค่าซื้อขายกว่า 879 ล้านบาท
ยิว ฮอค โคว กล่าวอีกว่า การยื่นร้องศาลปกครอง กระทบต่อราคาหุ้นของบริษัท ทั้งที่ ธุรกิจบริษัทเป็นหุ้นพื้นฐานดี และได้ดำเนินการตามกฎเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลอดจนหารือกับหน่วยงานกำกับดูแลกระทรวงศึกษาธิการอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ซึ่งไม่เคยถูกทักท้วงใดๆ มาตลอด 7 ปี ที่พยายามผลักดันเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น และยังไม่พิจารณาฟ้องร้องกลุ่มบุคคล ที่อาจมีเจตนาทุบราคาหุ้นบริษัท
ต้องการพิสูจน์ให้สังคมเห็นว่า การนำธุรกิจโรงเรียนเข้าตลาดหุ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพจัดการสอน และสามารถตรวจสอบคุณภาพการศึกษาและค่าธรรมเนียมได้ซึ่งแตกต่างจากโรงเรียนทั่วไป
ขณะที่นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ ปฏิบัติตามขั้นตอนและระเบียบอย่างครบถ้วน รวมทั้งบริษัทที่เข้าจดทะเบียน ที่ต้องเปิดเผยข้อมูลที่โปร่งใสให้สาธารณชนทราบ ซึ่งส่งผลดีต่อระบบการแข่งขันเสรี เพราะกระตุ้นให้บริษัทจดทะเบียนปรับปรุงและควบคุมตัวเองให้จูงใจต่อการลงทุน สอดคล้องกับ ก.ล.ต.ออกเอกสารชี้แจง
กรณีศาลปกครองสั่งให้ ก.ล.ต.ชี้แจงการอนุมัติให้บริษัทดังกล่าว เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้นั้น ก.ล.ต.พร้อมให้ข้อมูลอย่างเต็มที่ เนื่องจาก การดำเนินการเป็นไปตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ.2550 ซึ่งไม่มีข้อห้าม
ทั้งนี้ ในหนังสือตอบกลับข้อหารือจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน หรือ สช. ไม่ทักท้วงใดๆ จึงไม่มีเหตุให้ปฏิเสธคำขอจดทะเบียน จึงออกคำสั่งตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย.2561 ต่อมา บริษัท ได้เสนอขายหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 26 พ.ย.2561 ก่อนเปิดซื้อขายวันนี้เป็นวันแรก