เตือน! "ทะเลตะวันออก" น้ำทะเลหนุนสูงจากพิษปาบึก

ภัยพิบัติ
5 ม.ค. 62
12:08
2,366
Logo Thai PBS
เตือน! "ทะเลตะวันออก" น้ำทะเลหนุนสูงจากพิษปาบึก
กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนพื้นที่จังหวัดทะเลตะวันออก เจอน้ำทะเลหนุนสูงจากอิทธิพลพายุดีเปรสชันปาบึก หลังกลุ่มเมฆฝนแผ่ปกคลุมเป็นวงกว้าง แนะห้ามนักท่องเที่ยวประกอบกิจกรรมทางน้ำ เนื่องจากคลื่นสูง ส่วน นครศรีฯ-สุราษฎร์ฯ ยังต้องเฝ้าระวังถึง 9 ม.ค.นี้

วันนี้ (5 ม.ค.2562) นายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา พายุปาบึกเคลื่อนที่ขึ้นชายฝั่ง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช แล้วมีแนวโน้มจะมุ่งหน้าไปทาง อ.ท่าศาลา แต่กลับเข้าไปในตัวเมืองแทน ก่อนจะเข้าสู่ อ.ท่าช้าง โดยพายุปาบึกอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช ประมาณ 4-5 ชั่วโมงโดยไม่เคลื่อนที่ ทำให้กรมอุตุนิยมวิทยาเป็นกังวลถึงภัยที่อาจจะทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วม โดยเฉพาะน้ำที่จะหลากลงมาในช่วงกลางคืน

ผมต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่บอกไปว่า เป็นไปได้ไม่ต้องนอนคืนนี้ จนทำให้หลายท่านไม่ได้นอน เพราะเฝ้าระวังอยู่ 

หลังจากเวลา 01.00 น. ไปแล้ว พายุโซนร้อนปาบึกก็เคลื่อนไปทางทิศตะวันตก และข้ามเขาพนมไปทาง จ.กระบี่ ผ่านไปทาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ในเวลาประมาณ 05.00 น. โดยเคลื่อนตัวแบบเร็วสลับช้า จนกระทั่ง 07.00 น. พายุปาบึกเคลื่อนเข้าไปที่ จ.พังงา ประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนจะอ่อนกำลังลงจากพายุโซนร้อนเป็นพายุดีเปรสชัน ซึ่งมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางอยู่ที่ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เวลา 09.00 น. พายุปาบึกได้เคลื่อนลงสู่ทะเล และเคลื่อนไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งศูนย์กลางพายุออกห่างจากฝั่ง อ.ตะกั่วป่า ไป 15 กิโมตร ในเวลา 11.00 น. แต่ถึงแม้ว่าศูนย์กลางจะออกไปไกลแล้ว แต่ตัวพายุยังครอบคลุมอยู่ทั้ง 2 ฝั่งทะเลไทย

จากข้อมูลภาพดาวเทียมจะเห็นว่ามีลักษณะกลุ่มเมฆฝนเกิดขึ้นและขยายตัวออกไปในอ่าวไทย โดยจะส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก และมีทิศทางที่จะเลี้ยวไปทาง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปถึง จ.ชุมพร และเข้าไปคลุม จ.เพชรบุรี โดยใน จ.ราชบุรี ก็มีริ้วเมฆฝนอยู่เช่นเดียวกัน

สำหรับประชาชนในพื้นที่ จ.ชุมพร และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังคงต้องเฝ้าระวังฝนตกหนัก ขณะที่ จ.เพชรบุรี จ.ราชบุรี บางส่วนจะได้รับอิทธิพลจากกลุ่มเมฆฝน แล้วกลุ่มเมฆฝนจะเคลื่อนตัวไปคลุมพื้นที่ จ.นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสงคราม กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และปทุมธานี จากอิทธิพลจากพายุปาบึก จนทำให้เกิดฝนตกในหลายพื้นที่

นอกจากนี้ กลุ่มเมฆฝนยังมีลักษณะแผ่ขยายขึ้นไปในพื้นที่ตะวันตก ตั้งแต่ จ.ชลบุรี จันทบุรี และตราด จนทำให้น้ำทะเลอัดขึ้นไปจนเกิดคลื่นแรง แล้วจะเกิดฝนตกตามมา จนอาจทำให้เกิดอันตรายแก่นักท่องเที่ยวได้

ดังนั้น ในภาคตะวันออก อย่าเพิ่งวางใจ อย่าขี่บานาน่าโบ๊ต อย่าลงเล่นน้ำ เพราะน้ำจะเชี่ยว อาจเกิดอันตรายได้

อย่างไรก็ตาม ในภาคตะวันออกยังต้องเฝ้าระวังอิทธิพลพายุปาบึกเช่นกัน เนื่องจากน้ำท่วมไม่ได้มาจากสภาวะฝนตกหนัก แต่เกิดจากมวลน้ำในอ่าวไทยมีลมพัดหมุนดันมวลน้ำไหลไปจนทำให้น้ำในอ่าวไทยเอ่อล้นขึ้นมา โดยขณะนี้ท่าน้ำต่างๆ เริ่มมีน้ำหนุนสูงขึ้นมาแล้ว โดยที่ไม่มีฝนตก 

เตือน นครศรีฯ-สุราษฎร์ เฝ้าระวังถึง 9 ม.ค.นี้

สำหรับสถานการณ์ต่อจากนี้ ผลกระทบที่มีต่อประเทศไทยจะดีขึ้นเรื่อยๆ วันที่ 6 ม.ค. พาบุปาบึกจะขยับออกจากประเทศไทยไป และส่งผลให้กระแสลมพัดเบาบางลง ชาวเรือจะสามารถเดินเรือได้ตามปกติ แม้ว่าพายุปาบึกจะออกไปแล้ว แต่ในวันที่ 7-8 ม.ค.นี้ ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะ จ.นครศรีธรรมราช จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ชุมพรตอนล่างบางส่วน ยังไม่ควรกลับเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงหรือบ้านที่พักอาศัยที่อยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยง เนื่องจากอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ เพราะอาจมีน้ำที่ค้างอยู่บริเวณเขาหรือตามป่าในพื้นที่สูงที่ยังไหลลงมาไม่หมด ซึ่งอาจจะเอ่อท่วมขึ้นมาได้

เมื่อคืนนี้  นครศรีฯ-สุราษฎร์ฯ มีฝน 100-200 มิลลิเมตร ปัจจุบันยังคงมีน้ำค้างอยู่ พี่น้องต้องระวังไปอีก 2 วัน อย่างน้อย 6-7 ม.ค. วันที่ 8 สามารถกลับบ้านได้ไหม ต้องดูว่าเป็นที่ลุ่มต่ำไหม แต่ 9 ม.ค.เข้าได้อย่างสบายใจ ไม่มีปัญหา 

ทั้งนี้ หากพายุปาบึกเคลื่อนตัวไปเหมือนกับพายุในฤดูอื่นๆ อาจจะไปถึงประเทศอินเดีย บังกลาเทศ และเมียนมา แต่ในช่วงนี้เป็นฤดูหนาว กรมอุตุนิยมวิทยาจึงคาดการณ์ว่า พายุปาบึกจะอ่อนกำลังลงและอาจสลายตัวไปก่อนจะขึ้นฝั่ง แต่หากไม่เคลื่อนไปในเส้นทางนั้น แต่เบนไปศรีลังกา ก็อาจจะยังไม่อ่อนกำลังลง

 

 อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

อิทธิพล "ปาบึก" ส่งน้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้านริมฝั่งเสียหาย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง