"ปิดถ้ำหลวง" 18-20 มี.ค.นี้ เปิดทางหน่วยซีลเก็บอุปกรณ์ออก

เริ่มแล้ว 18-20 มี.ค.นี้ ปิดถ้ำหลวง ให้หน่วยซีล และเจ้าหน้าที่เข้าเก็บกู้อุปกรณ์ที่ตกค้างในห้องโถง 2 และ 3 ที่เป็นหน่วยบัญชาการช่วยชีวิตทีมหมูป่า ไม่อนุญาตสื่อมวลชนเข้าพื้นที่ แต่ยังเปิดขุนน้ำนางนอน หรือสระน้ำมรกต ให้ท่องเที่ยวได้ตามปกติ

วันนี้ (18 มี.ค.2562) นายกวี ประสมพล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย จ.เชียงราย ได้ติดประกาศบริเวณอุทยานฯ เรื่องการปิดการท่องเที่ยวบริเวณถ้ำหลวง โดยมีเนื้อหาว่าจะมีการปิดการท่องเที่ยวดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.-20 มี.ค.นี้รวมระยะเวลา 3 วัน เพื่อความสะดวกของในการปฏิบัติงานของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือหรือกองทัพเรือและกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงราย ซึ่งจะเข้าไปปฏิบัติงานภายในถ้ำหลวง ตามที่คณะทำงานบูรณาปรับปรุงฟื้นฟู อุทยานฯ ได้ประชุมและทางกองอำนวยการฯ ได้มีมติให้เข้าไปปฏิบัติการในถ้ำหลวงได้ตามวันและเวลาดังกล่าว

หนังสือระบุว่าสำหรับการท่องเที่ยวบริเวณอื่น โดยเฉพาะที่ขุนน้ำนางนอน หรือสระน้ำมรกตที่ตั้งอยู่ห่างไปประมาณ 2 กิโลเมตรนั้น นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปยังสามารถเข้าไปเที่ยวชมกันได้ตามปกติโดยไม่มีกรปิดแต่อย่างใด

คาดอาจปิดต่อช่วง 2 วันที่ 26-29 มี.ค.

ทั้งนี้กรณีถ้ำหลวงดังกล่าวทางกองอำนวยการฯ โดยทางหน่วยชีล กรมอุทยานแห่งชาติ หน่วยกู้ภัย เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) มิสเตอร์เวิร์น อันสเวิร์ธ นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ ได้เข้าไปสำรวจล่วงหน้ามาแล้วเมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่ายังมีน้ำ และทรายท่วมบริเวณสามแยกห่างจากปากถ้ำเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร

แต่ที่โถงแรก โถงที่ 2 และโถงที่ 3 น้ำได้แห้งแล้วภายในถ้ำมีอุปกรณ์ประกอบด้วยสายไฟฟ้า ท่ออากาศ วิทยุสื่อสาร ถังอ๊อกซิเจนคงค้างอยู่กว่า 300 ถังโดยมีมากที่โถงที่ 3 ซึ่งใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการขณะเกิดเหตุและโถงที่ 2 ซึ่งเป็นโถงใหญ่อีกแห่งหนึ่ง เปลสนามและสายเชือกที่ใช้สำหรับเชื่อมโยงเส้นทางถึงกันไปตลอดรายทาง เครื่องสูบน้ำ กระดาษฟรอยด์ อาหารพาวเวอร์เจล ขยะ ฯลฯ

ภาพ : PR.Chiangrai ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเดินหน้าจากโถงที่ 3 ผ่านสามแยกไปทางเนินนมสาวระยะทางอีกประมาณ 700 เมตร เพื่อสำรวจอุปกรณ์ต่อไปได้ เนื่องจากน้ำยังคงท่วมและมีทรายอุดตันกระนั้นเมื่อกองอำนวยการฯ และคณะทำงานบูรณาปรับปรุงฟื้นฟู อุทยานฯ ได้ประชุมพร้อมนำข้อมูลมาหารือแล้วจึงได้ข้อสรุปว่าเป็นช่วงที่เหมาะสม จึงมีการระดมกำลังเพื่อจะเข้าไปปฏิบัติการขนย้ายอุปกรณ์ต่างๆ ทั้ง หมดออกมา โดยอุปกรณ์ทั้งหมดส่วนหนึ่งจะนำคืนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้เสียสละนำไปเข้าร่วมปฏิบัติการดังกล่าวและส่วนหนึ่งจะใช้จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์หน้าถ้ำหลวงในอนาคตต่อไป

ทั้งนี้ปฏิบ้ติการดังกล่าวจะมี 2 ช่วงโดยคาดว่าช่วงแรกจะยังไม่เสร็จสิ้น และช่วงที่ 2 จะมีระหว่างวันที่ 26-29 มี.ค.นี้ ซึ่งคาดว่าทางอุทยานจะมีการออกประกาศอีกครั้ง ทั้งนี้ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกหรือสื่อมวลชน เข้าไปบริเวณถ้ำโดยอนุญาตให้เฉพาะสำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.เชียงราย เข้าไปเก็บข้อมูลเพื่อพิจารณาเผยแพร่ต่อเท่านั้น