เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2562 สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า รัฐบาลเซอร์เบียได้ตัดสินใจที่จะให้สัญชาติแก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. โดยอ้างถึงบทบัญญัติทางกฎหมายว่า “ชาวต่างชาติสามารถได้รับสัญชาติเซอร์เบียได้ หากเป็นไปตามผลประโยชน์ของประเทศ”
โดยสื่อท้องถิ่น รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ระบุว่า ประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการมอบสัญชาติแก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปรากฏอยู่ในราชกิจจานุเบกษาของรัฐบาลเซอร์เบีย แต่ไม่ได้มีการให้คำอธิบายหรือรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม พร้อมระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่ทางการเซอร์เบียรวมถึงนักการทูตไทยประจำเซอร์เบียปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้
สำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางออกนอกประเทศก่อนศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง จะพิพากษาจำคุก 5 ปี พร้อมให้ออกหมายจับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพื่อนำตัวมารับโทษคดีปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการจำนำข้าว เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2560
ทักษิณ ยืนยัน ยิ่งลักษณ์ ได้สัญชาติเซอร์เบีย
หลังมีการรายงานข่าวดังกล่าว บีบีซีไทย รายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์และยืนยันกับบีบีซีไทยเกี่ยวกับกรณีรัฐบาลเซอร์เบีย มอบสัญชาติให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า "ผมเพื่อนฝูงกันทั้งนั้น มีอะไรที่ทำประโยชน์ให้เขาเราก็ทำ..." พร้อมระบุว่า
เป็นคนคุ้นเคยกัน เป็นความสัมพันธ์ที่เขาเห็นว่า เขาได้อ่านประวัติเรา รู้เรื่องเราเยอะ อะไรเกิดขึ้นในไทย รู้ว่าเราทำอะไรให้ประชาชนได้ เขาอยากให้เราไปช่วยคิดให้เกิดประโยชน์ เมื่อเราทำประโยชน์ให้บ้านเมืองเราไม่ได้ เราก็ไปช่วยเขา ที่บ้านเราเอายาเม็ดเก่า ยาหมดอายุของผมไปใช้ อยากให้ผมช่วยอะไรก็บอก
ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางไปดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพื่อพบกับพี่ชาย คือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งหลบหนีหลังถูกปฏิวัติรัฐประหารนำโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ในฐานะคณะปฏิรูปการปกครองในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัติย์ ทรงเป็นประมุข หรือ คปค. ปี 2549 ขณะที่นายทักษิณ ได้รับสัญชาติจากรัฐบาลสาธารณรัฐมอนเตเนโกร เมื่อปี 2553 ซึ่งทั้งเซอร์เบียและมอนเตเนโกรเคยเป็นประเทศเดียวกัน