ศาลอนุมัติหมายจับเพิ่ม 3 ผู้ต้องหาคดีระเบิดป่วนกรุง

อาชญากรรม
20 ส.ค. 62
16:07
1,091
Logo Thai PBS
ศาลอนุมัติหมายจับเพิ่ม 3 ผู้ต้องหาคดีระเบิดป่วนกรุง
รองโฆษก ตร. ระบุศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาคดีระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ เพิ่มอีก 3 คน ทำให้ขณะนี้ออกหมายจับไปแล้วทั้งหมด 9 คน

วันนี้ (20 ส.ค.2562) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวน และดำเนินคดีกับผู้ร่วมก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ กทม.และพื้นที่เกี่ยวข้องว่าได้รับรายงานจากพนักงานสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมว่า ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม 3 คน ในข้อหาเป็นอั้งยี่, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์, กระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือพรัพย์ของผู้อื่น, ทำ ใช้ มีไวในครอบครองซึ่งวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ พกพาอาวุธ(ระเบิด)ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเป็นความผิดที่มีอายุความ 20 ปี และมีอัตราโทษสูง

โดยขณะนี้ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาแล้วทั้งหมด 9 คน จากผู้ร่วมก่อเหตุหลายคนในแต่ละพื้นที่เกิดเหตุ ได้แก่ นายลูไอ แซแง และนายวิลดัน มาหะ ที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 2 ส.ค.และวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ศาลได้อนุมัติหมายจับจำนวน 4 คนคือ นายอัสมี อาบูวะ, นายอุสมาน เปาะลอ, นายอุสมาน เปาะลอ และนายอัมรี มะมิง

ขณะที่วันนี้ (20 ส.ค.) ศาลได้อนุมัติหมายจับเพิ่มอีก 3 คนคือ นายอุสมัน ลาเตะ, นายฮาซัน อาแว และนายนัสรู มะประสิทธิ์ ซึ่งจะมีการสืบสวนขยายผลออกหมายจับผู้ที่ร่วมก่อเหตุและผู้ที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมต่อไป

รองโฆษก ตร. เปิดเผยอีกว่า นายกรัฐมนตรี ได้ฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องที่ทำงานกันอย่างเต็มกำลังความสามารถและบูรณาการกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและเร่งรัดติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมทั้งในส่วนของภาคประชาชนที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตาในการสอดส่องและแจ้งข้อมูลเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่

อีกทั้ง ผบ.ตร.ยังได้ขับเคลื่อนตามนโยบายนายกฯ ที่ให้คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ต้องทำงานแข่งกับเวลา ยึดระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนหลักสิทธิมนุษยชนเป็นสำคัญ โดยจะต้องไม่มีการจับแพะอย่างเด็ดขาด พร้อมขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ หากประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแสที่เกี่ยวข้องสามารถแจ้งมายังหมายเลขสายด่วน 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง