จับตาคู่แข่งลุ้นไปโอลิมปิกกับนักตบสาวไทย

กีฬา
21 ส.ค. 62
09:49
5,866
Logo Thai PBS
จับตาคู่แข่งลุ้นไปโอลิมปิกกับนักตบสาวไทย
จับตาคู่แข่งของไทยที่จะเข้าไปพบกันในการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงโอลิมปิกเกมส์ รอบคัดเลือก โซนเอเชีย หลังจากจบรอบแรก รายการชิงแชมป์เอเชีย

วันนี้ (21 ส.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากจบรอบแรกในศึกชิงแชมป์วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ ซึ่งไทยก็ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายตามคาด แต่ก็แอบมีลุ้นในนัดแรกกับไต้หวัน ที่เจอเกมส์เหนียวแน่นจนเกือบพลาดท่า แต่หลังจากเน้นซ้อมเกมส์ป้องกัน ก็กลับมาเอาชนะนิวซีแลนด์ ชนิดส่งผู้เล่นสำรองลงสนามเพื่อสร้างความมั่นใจ

ซึ่งรอบ 2 ของศึกชิงแชมป์เอเชีย จะถูกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งไทย อยู่กลุ่มอี กับเกาหลีใต้ อิหร่าน และไต้หวัน (ซึ่งทีมที่เคยพบกันรอบแรกมาแล้วไม่ต้องเจอกันอีกครั้งในรอบ 2 ซึ่งทำให้ไทยไม่ต้องเจอไต้หวันในรอบ 2 แต่ยังคงนำคะแนนจากรอบแรกมาคิด) และเอา 2 ทีมที่ทำคะแนนดีสุดในแต่ละสายไปเล่นรอบตัดเชือก 4 ทีมสุดท้าย

ส่วนอีกกลุ่มคือกลุ่มเอฟ ประกอบด้วย จีน ญี่ปุ่น คาซัคสถาน และอินโดนีเซีย ซึ่งนักตบสาวไทยตอนนี้มองไกลไปถึงการเข้ารอบ 4 ทีมแล้ว เพราะอิหร่านคงไม่เกินความสามารถของไทยที่จะผ่านไปไม่ได้ ส่วนเกมส์กับเจ้าภาพขึ้นอยู่กับวันนั้นเป็นวันของใคร ซึ่งรอบตัดเชือกไม่ว่าไทยเจอจีนที่แม้เอาชุดบีมาแข่ง แต่มีผู้เล่นชุดใหญ่อยู่ 6 คน ส่วนญี่ปุ่น คือชุดแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ถือเป็นงานหนักแทบทั้งสิ้น

 

 

แต่อีกมุมหนึ่งตอนนี้เราเองได้สิทธิไปเล่นคัดเลือกโอลิมปิก ในฐานะทีมอันดับที่ 1-8 ของเอเชีย อย่างเป็นทางการ ซึ่งหากไม่นับ จีนกับ ญี่ปุ่น ที่ได้ไปแข่งขันโอลิมปิกเแล้ว ก็ได้เห็นคู่แข่งขันในรอบคัดเลือกโซนทวีปเอเชีย ซึ่งนอกจากเกาหลีใต้ เป้าหมายอันดับ 1 ที่ไทยมองว่าต้องไปวัดกันในรอบชิงชนะเลิศ แต่ทีมอื่นก็พร้อมสร้างปัญหาได้เหมือนกัน ทั้ง อินโดนีเซีย คาซัคสถาน อิร่าน และไต้หวัน ซึ่งหากสาวไทยไม่ฟิต แม้จะผ่านได้แต่อาจจะต้องแลกด้วยการเสียผู้เล่นคนสำคัญ

ซึ่งต้องยอมรับว่าการไปโอลิมปิกของสาวไทยปีนี้ยังคงเปิดกว้าง แต่จะบอกว่าผู้เล่นชุดหลักอายุเยอะควรดันเด็กก็ไม่ใช่คำตอบดีสุด เพราะตั้งแต่เอเชี่ยนเกมส์ปีที่แล้ว การใช้ผู้เล่นหมุนเวียนคือสิ่งที่ลงตัว ซึ่งส่วนใหญ่ผู้เล่นรุ่นพี่ก็เป็นคนที่พลิกสถานการณ์มาตลอด บวกกับความมุ่งมั่นที่หลายคนอยากจบการเล่นวอลเลย์บอลด้วยการไปโอลิมปิกครั้งหนึ่งในชีวิต คงต้องพูดเหมือนโค้ชด่วน ที่บอกสื่อเกาหลีใต้ในงานแถลงข่าวว่า เราต้องสู้สุดชีวิต

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง