วันนี้(23 ก.ย.2562) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายนพรุจ หรือนพรุฒ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช., นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลฎีกาคดีชุมนุมล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อปี 2550
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าฟังคำพิพากษาศาลฎีกาว่า จากที่ประสานงานทราบว่าจำเลยมาฟังคำพิพากษากันครบทุกคน คดีนี้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ จำเลยและทีมทนายความทำอย่างดีที่สุด ส่วนคำพิพากษาออกมาอย่างไรพร้อมน้อมรับ ทั้งนี้ไม่กังวลใจเพราะสิ่งที่เคลื่อนไหวทางการเมืองที่ผ่านมาเพื่อให้ประเทศไทยปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ประมุข ไม่ได้ประสงค์ให้เกิดความรุนแรงหรือเสียหายกับบุคคล สถานที่ หรือองค์กรใด ๆ ทั้งสิ้น มีความบริสุทธิ์ใจและเข้าสู่การต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมตามที่ถูกกล่าวหา
เมื่อถามว่ากังวลใจหรือไม่หากติดคุกอาจจะกระทบอนาคตทางการเมือง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า กังวลกับอนาคตของประเทศมากกว่า ที่เราอยู่กันโดยไร้ซึ่งประชาธิปไตยที่แท้จริง อยู่ในสภาพที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาประเทศ นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องกังวลร่วมกัน อนาคตการเมืองของตัวเองเป็นเรื่องเล็ก ไม่ว่าเราจะอยู่บนเวทีการเมืองหรือไม่ ก็จะมีผู้ร่วมอุดมการณ์คนใหม่ ๆ ปรากฏตัวมาทำหน้าที่แสดงศักยภาพให้ทุกคนได้เห็นว่า ประชาชนที่รักประชาธิปไตยไม่ได้ผูกขาดคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
เมื่อถึงเวลานัด นายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ นพ.เหวง นายวิภูเเถลง ยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิมที่เคยต่อสู้คดีพร้อมยื่นคำให้การใหม่เป็นรับสารภาพ ศาลพิจารณาแล้วเห็นควรส่งคำร้องให้ศาลฎีกาเพื่อพิจารณามีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งอีกครั้งต่อไป
ล่าสุดมีรายงานว่าศาลฎีกาเลื่อนอ่านคำพิพากษาไปก่อน