"ยิ่งลักษณ์" ขอเวลา 1 ปีทำผลงานเป็นรูปเป็นร่าง แจงยังหวังพบ "พล.อ.เปรม" ขอคำแนะนำ

การเมือง
16 ส.ค. 54
13:09
7
Logo Thai PBS
"ยิ่งลักษณ์" ขอเวลา 1 ปีทำผลงานเป็นรูปเป็นร่าง  แจงยังหวังพบ "พล.อ.เปรม" ขอคำแนะนำ

รายชื่อคณะรัฐมนตรี พอใจ 70% ที่เหลือเป็นรมต.หน้าใหม่ ขอโอกาสให้ทำงาน นายกฯปู เปิดใจคุยตอบชื่อคนนอกหลุดโผ เหตุเงื่อนไขไม่ลงตัว

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการเจาะข่าวเด่น ทางช่อง 3 เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ว่า นับตั้งแต่ลงเลือกตั้งถูกโจมตีกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งคาดการณ์ไว้แล้ว โดยตนจะทำหน้าที่เพื่อส่วนร่วม คำนึงถึงประชาชนทุกคน เป็นที่ตั้งของตัวเอง ส่วนคดีของพ.ต.ท.ทักษิณ ตนจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว บนหลักนิติธรรม ให้ความเสมอภาคกับทุกฝ่าย โดยจะไม่เข้าไปยุ่ง

ถามว่า หากรัฐมนตรีเข้าไปดำเนินการ ก็ย้อนกลับมายังนายกรัฐมนตรีอยู่ดี นางสาวยิ่งลักษณ์ตอบว่า เราต้องทำเพื่อประโยชน์ประชาชน ปัญหาปากท้องต้องการการแก้ไขเร่งด่วน เรื่องนโยบายมาก่อน

ถามเรื่องกรณีวีซ่าเข้าญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เท่าที่ทราบเอกชนญีปุ่นเชิญพ.ต.ท.ทักษิณ เชิญก่อนการเลือกตั้ง ส่วนการอนุญาตทางการทูต เป็นเรื่องของญีปุ่น ที่ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้อยู่แล้ว และรัฐบาลก็ไม่มีนโยบาย

เมื่อสอบถามกับนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้สอบถามกันแล้วว่า ไม่มีเข้าไปยุ่งเกี่ยว

เมื่อดูถึงมาตรฐานเปรียบกับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในการติดตามจับกุมพ.ต.ท.ทักษิณ นางสาวยิ่งลักษณ์ ตอบว่า ก็แล้วแต่การดำเนินงานของผู้เกี่ยวข้อง

เมื่อถามว่า ทำไมเลือกนายสุรพงษ์ เป็นรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ที่ถูกมองว่ายี้มากที่สุด นายกรัฐมนตรีอธิบายว่า เป็นคนที่มีประสบการณ์ธุรกิจระหว่างประเทศ สามารถเจรจาได้ดี เข้าใจทางการค้า มีความรู้มาก่อนที่จะช่วยได้ ถ้าเราสานต่อได้ดี จะดึงนักลงทุนเข้ามาสานต่อได้ ไทยต้องมุ่งเป้าหมายได้  โดยไม่ใช่พ.ต.ท.ทักษิณ เลือกมา เราเลือกจากคณะกรรมการของพรรค ขอให้โอกาสรัฐมนตรีแต่ละคน ในช่วงเวลาหนึ่งให้ขับเคลื่อนผลงานออกมา

เมื่อถามว่า รัฐมนตรี 30 กว่าคนเลือกเองกี่คน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เลือกเองทั้งหมด แต่ผ่านการปรึกษาหารือกับคณะกรรมการภายใน พอใจสัก 70% ใน 30% มองว่ารัฐมนตรีบางคนอาจหน้าใหม่ แต่เชื่อมั่น แม้ไม่ตรงกับภาระหน้าที่ แต่ความรู้ความสามารถเฉพาะตัวในการบริหารจัดการ เชื่อมั่นว่ามี เช่น รัฐมนตรีต่างประเทศ แม้จะไม่เคยผ่านงานต่างประเทศ แต่สามารถเจรจาด้านธุรกิจ ขอให้โอกาส

เมื่อถามว่า ชื่อของคนนอกที่เข้ามามีรายชื่อเป็นรัฐมนตรีจำนวนมาก แต่ก็ถอนตัวไป นายกรัฐมนตรีตอบว่า เชื่อว่าจำนวน ครม.ชุดนี้ถือว่าคนนอกมาเยอะ บางรัฐบาลมี 2-3 คนเอง ส่วนบางคนที่เชิญมา ไม่เชิงปฏิเสธ แต่ทาบทามก็ม่เหตุผลของบางคน ส่วนคนเสื้อแดงไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีความรู้ความสามารถ ดูองคาพยพรวม มีสภา บริหาร ด้านพื้นที่ บางครั้งไม่จำเป็นต้องมาอยู่ในการบริหารทั้งหมด โดยอยากเห็นบรรยากาศการปรองดอง ที่คนเสื้อแดงมีอุดมการณ์ อยากเห็นประเทศชาติก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน คนกลุ่มนี้มีหลายบทบาท หลายด้านที่จะช่วยทำงานได้

เมื่อถามถึง ชื่อของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ไมได้เป็นรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ตอบว่า เป็นคนเก่ง อยากให้มาช่วยงานด้านสภา การเลือกครม.นั้นยากมาก ให้เลือก 35 คน รู้ว่ามีถูกใจบ้าง ไม่ถูกใจบ้าง และหากปรับ ครม. ก็อาจเป็นไปได้ที่จะเข้าร่วม

ถามถึงนโยบายค่าแรง 300 บาท ปรับเงินเดือน 15,000 บาท นายกรัฐมนตรี ตอบว่าในการแถลงต่อรัฐสภา จะนำเข้าไปอยู่ในนโยบายด้วย โดย 300 บาท คงต้องคุยกับไตรภาคี นายจ้างด้วย เป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องคุยกัน เตรียมความพร้อม โดยเขียนโครงสร้างแล้ว ต้องดูแผนปฏิบัติ และเวลาด้วย บางนโยบายต้องดูข้อกฎหมาย และงบประมาณเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

"ไม่มีงบประมาณทำได้ทันที ต้องรอเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า เหตุเพราะไม่ได้ทำงบฯไว้ เนื่องจากยุบสภาก่อน โครงการใหม่ จึงต้องผ่านการแถลงนโยบายและตั้งงบประมาณใหม่ เราอยากเห็นกรุงเทพฯและปริมณฑลได้ 300 บาท แต่ไม่อยากพูดอย่างนั้น ขอให้รอเวลาก่อน"

เมื่อถามถึงการลดภาษี นางสาวยิ่งลักษณ์ ตอบว่า เรื่องลดภาษี เราจะเริ่มในวันที่ 1 มกราคม ดูความพร้อมน่าจะทำได้   ส่วนรายได้ 15,000 บาท ภาคราชการทำได้ ภาคเอกชนต้องดูความพร้อมก่อน นโยบายหลักที่จะแถลงอย่างชัดเจนต่อรัฐสภา นายกรัฐมนตรีตอบว่า เรื่องลดราคาน้ำมัน แต่ยังไม่ได้คุยเรื่องรายละเอียด โดยมองเป็นหมวดๆ ที่เร่งด่วน เพราะน้ำมัน เป็นเรื่องของโครงสร้างต้นทุนสินค้าลดลงด้วย ให้สินค้าอุปโภคบริโภคลดลง ไม่ถูกกักตุน และการดูแลค่าใช้จ่าย เช่น พักหนี้ทำได้  เมื่อทำทั้งหมด เพื่อสร้างบรรยากาศให้ต่างชาติมาลงทุน ช่วยสร้างแรงซื้อขาย

เมื่อถามถึงการไปขอพบกับพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ตอบว่า ยังไม่ได้ไปขอพบ แต่อยากพบเพื่อรับฟังคำแนะนำ เราอยากเห็นความสามัคคีปรองดอง จะทำงานนี้ให้ดีที่สุด ทำคนเดียวไม่ได้ ต้องทุกภาคส่วนทำให้เกิดขึ้นในประเทศไทย โอกาสต่างๆ เศรษฐกิจเริ่มหันมาจากสหรัฐ ยุโรป มายังเอเชีย ไทยต้องเริ่มลงมือทำได้แล้ว โดยจะให้สิ่งต่างๆ ที่ผลักดันเป็นรูปเป็นร่าง คงต้องขอเวลา 1 ปี


ข่าวที่เกี่ยวข้อง