เผาหุ่น “สมศักดิ์” รมว.ยุติธรรม หนุนสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น

ภูมิภาค
2 พ.ย. 62
15:07
452
Logo Thai PBS
เผาหุ่น “สมศักดิ์” รมว.ยุติธรรม หนุนสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น
ชาวสะเอียบ ยังสู้ไม่ถอย อ.สอง จ.แพร่ ร่วมสืบชะตาแม่น้ำยม ตั้งโรงเรียนแม่น้ำยมมหาวิทยาลัยสักทอง แหล่งองค์ความรู้อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม พร้อมร่วมสาปแช่ง เผาหุ่นนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.กระทรวงยุติธรรม เข้ามาผลักดันสร้างเขื่อนใหญ่

วันนี้ (2พ.ย.2562) เวลา 10.00 น.ชาวบ้านดอนแก้ว ดอนชัย แม่เต้น และดอนชัยสักทอง จำนวน 1,000 คน พร้อมด้วยแกนนำต้านเขื่อนแก่งเสือเต้นใน 4 ยุค คือ ยุคที่ 1 นายชุม สะเอียบคง ยุคที่ 2 นายเส็ง ขวัญยืน ยุคที่ 3 นายอุดม ศรีคำภา และยุคที่ 4 คือยุคปัจจุบัน นายสมมิ่ง เหมืองร้อง

 

 

นิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป ประกอบพิธีสืบชะตาแม่น้ำ พร้อมทั้งระลึกถึงนักต่อสู้ต้านเขื่อน ผู้ล่วงลับไปในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มนักวิชาการ นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม สมัชชาคนจน กลุ่มศิลปิน เพื่อสิ่งแวดล้อม องค์กรพัฒนาเอกชน และเครือข่ายต้านเขื่อนการทำลายแม่น้ำโขงเข้าร่วมพิธีเป็นการรำลึกถึงการต่อสู้กับโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ ที่สามารถยับยั้งมาได้ระดับต้นๆ ในประเทศไทย ก่อนหน้านั้นมีเพียงเขื่อนน้ำโจน ที่สามารถหยุดได้แบบเบ็ดเสร็จ คือ ยุติการสร้างอย่างถาวร

 

 

ในพิธีดังกล่าว มีการฟื้นฟูป่าไม้ และร่วมกันบวชป่า ปลูกต้นไม้เพิ่มเติมในบริเวณที่จัดงาน คือ “ผาอิง” ริมน้ำยม ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ หลังการบวชป่าแล้ว ชาวบ้านได้ร่วมกันสาปแช่ง และเผารายชื่อกลุ่มที่สนับสนุนให้มีการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น พร้อมทั้งเผาหุ่นนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.จังหวัดสุโขทัย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มีข่าวว่านายสมศักดิ์จะรื้อปัดฝุ่นโครงการแก่งเสือเต้นขึ้นมาอีกครั้ง

 

 

นายสมมิ่ง เหมืองร้อง แกนนำคนปัจจุบันกล่าวว่า เป็นที่น่าภาคภูมิใจในความร่วมมือของเครือข่าย ที่ทำงานร่วมกับชาวสะเอียบมา โดยเฉพาะกลุ่มนักวิชาการ เอ็นจีโอ. ศิลปิน สมัชชาคนจน ฯลฯ เดินทางมาร่วมงานอย่างพร้อมเพียงกัน ซึ่งการจัดงานครบรอบ 30 ปี นอกจากพิธีกรรม เช่นเดียวกับการต่อต้านเขื่อนในอดีตแล้ว ยังมีเวทีเสวนาเกี่ยวกับการพัฒนาทำไม่ต้องมีเขื่อน และอีกหลายๆ ประเด็น งานครบรอบ 30 ปี จัดในวัน 2 พ.ย.ไปจนถึงวันที่ 3 พ.ย.2562 นี้

 

 

ดร.ชัยณรงค์ เศรษฐเชื้อ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า การพัฒนาเรื่องน้ำในปัจจุบัน รัฐยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง คือ ไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และความเหมาะสมของชุมชนตัวอย่าง ในปัจจุบันคือการเสริมสปิลย์เวย์ของอ่างเก็บน้ำ ใน ต.สรอย อ.วังชิ้น จ.แพร่ ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมาก

 

 

สำหรับประชาชน ที่อยู่ใต้แนวเขื่อน ถ้าน้ำมาจำนวนมาก อาจเกิดปัญหารุนแรงได้ แต่ในภาพรวม การต่อสู้ของภาคประชาชนมายาวนานถึง 30 ปี เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า ภาคประชาชนสามารถจัดการระบบน้ำของตนเองได้ ราชการควรเข้าไปให้การสนับสนุน และส่งเสริมให้แนวคิดของชุมชน สามารถดำเนินการได้ไม่ควรไปคิดใหม่หรือทำเสียเอง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง