เปิดลงทะเบียนขอคืนเงินประกันมิเตอร์ไฟ 25 มี.ค.นี้

เศรษฐกิจ
19 มี.ค. 63
12:52
4,485
Logo Thai PBS
เปิดลงทะเบียนขอคืนเงินประกันมิเตอร์ไฟ 25 มี.ค.นี้
ผู้ใช้ไฟฟ้าทั้งบ้านอยู่อาศัยและกิจการขนาดเล็กที่จะขอคืนเงินหลักประกันการใช้ไฟฟ้า ซึ่งทั้ง 3 การไฟฟ้าฯ จะเริ่มเปิดให้ยื่นตรวจสอบสิทธิ์วันแรก 25 มี.ค.นี้ และจะทยอยคืนเงินในสิ้นเดือน มี.ค. แนะให้ยื่นผ่านออนไลน์จะสะดวกที่สุด

วันนี้ (19 มี.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (20 มี.ค.) เป็นวันแรกที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ประกาศหลักเกณฑ์เรื่องการคืนหลักประกันการใช้ไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้า ประเภทที่ 1 คือ บ้านที่อยู่อาศัย และประเภทที่ 2 คือ กิจการขนาดเล็ก และในวันที่ 25 มี.ค.นี้ จะเปิดให้ได้ยื่นตรวจสอบสิทธิ์และยื่นขอเงินคืนหลักประกัน การใช้ไฟฟ้าผ่าน 3 ช่องทาง คือ ออนไลน์ แอปพลิเคชัน และคอลเซ็นเตอร์ ทั้งในส่วนของเว็บไซต์ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง และกิจการไฟฟ้าสวัสดิการกองทัพเรือ

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงาน กกพ. ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า ร่างประกาศหลักเกณฑ์เพื่อรับคืนเงินประกันของผู้ใช้ไฟฟ้า จะประกาศราชกิจานุเบกษาภายในวันนี้ (19 มี.ค.) คาดว่าจะมีจำนวนผู้ได้รับประโยชน์ทั้งสิ้น 23 ล้านรายทั่วประเทศ วงเงินกว่า 33,000 ล้านบาท โดยหลังจากเปิดให้ยื่นตรวจสอบสิทธิ์และแจ้งความประสงค์ขอรับคืน วันที่ 25 มี.ค.แล้ว ผู้ให้บริการไฟฟ้าจะดำเนินการคืนหลักประกันใช้ไฟฟ้าได้ตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.2563

โดยจะคืนที่วางหลักประกันตามประเภทของขนาดเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า และจะไม่มีการเรียกเก็บเงินหลักประกันการใช้ไฟฟ้าจากผู้ใช้ไฟฟ้ารายใหม่อีก ยกเว้นกรณีเปลี่ยนประเภทผู้ใช้ไฟฟ้าจากประเภทที่ 1 และผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 2 ไปเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น ประชาชนสามารถลงทะเบียนตรวจสอบสิทธิ์ได้ 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ จะต้องกรอกชื่อ-นามสกุล เลขบัตรประชาชน รหัสบัญชีแสดงสัญญา ซึ่งระบุอยู่ในใบแจ้งค่าไฟฟ้าหรือใบเสร็จรับเงิน

ทั้งนี้ การคืนเงินจะผ่าน 3 ช่องทาง คือ พร้อมเพย์ ที่ผูกกับหมายเลขบัตรประชาชน, บัญชีธนาคารพาณิชย์ ที่มีชื่อตรงกับผู้วางหลักประกัน และผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส จำนวนเงินไม่เกิน 50,000 บาท

 

นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง เปิดเผยว่า กรณีหากชื่อผู้วางหลักประกันกับชื่อผู้อยู่อาศัยไม่ตรงกัน ก็จะต้องดำเนินการตรวจสอบสิทธิ์ใหม่ แต่เบื้องต้นผู้ที่ได้เงินคืนจะต้องเป็นผู้ที่วางหลักประกัน

พร้อมยอมรับว่า ขณะนี้จะต้องหารือกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ถึงมาตรการที่จะมารองรับความเสี่ยงเพื่อบริหารจัดการหนี้ที่คาดว่าจะสูญ หลังจากไม่มีการเปิดให้วางหลักประกันแล้ว เนื่องจากแต่ละปีมีผู้ที่ไม่ชำระเงินค่าไฟโดยรวมประมาณกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งสามารถใช้เงินหลักประกัน 80 ล้านบาท ยังคงมีหนี้คงค้างอีก 20-30 ล้านบาท จึงต้องหามาตรการเพื่อปิดความเสี่ยงในอนาคต

ด้านนายสมพงษ์ ปรีเปรม ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เปิดเผยว่า ในเดือน เม.ย.นี้ จะดำเนินการลดค่าไฟฟ้าให้เป็นรอบบิลแรก ต่อเนื่องจนถึงเดือน มิ.ย. และจะให้ผู้ใช้ไฟประเภทธุรกิจเฉพาะ เช่น โรงแรม รีสอร์ท ที่ได้รับผลกระทบ สามารถผ่อนชำระค่าไฟฟ้าเดือน เม.ย. และ พ.ค.2563 ได้ไม่เกิน 6 เดือน โดยไม่คิดดอกเบี้ย

ส่วนการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ทำให้หลายบริษัทออกนโยบาย work at home น่าจะส่งผลให้ภาพรวมการใช้ไฟฟ้าสำหรับที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น แต่ในด้านของภาคอุตสาหกรรมและท่องเที่ยวจะลดลงมาก จึงทำให้แนวโน้มการใช้ไฟฟ้าทั้งปีจะติดลบสอดคล้องกับจีดีพี จากเดิมเติบโตสูงกว่าจีดีพีเล็กน้อย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไฟเขียวลดค่าน้ำประปา-ค่าไฟ 3 เดือนลดผลกระทบไวรัสโคโรนา

คาดประชาชนได้รับเงินประกันการใช้ไฟฟ้า มี.ค.นี้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง