ดีเอสไอจับหญิงไทยหลอกลงทุน บ.อีเกิ้ลเกตส์ กรุ๊ป

อาชญากรรม
24 เม.ย. 63
20:34
2,020
Logo Thai PBS
ดีเอสไอจับหญิงไทยหลอกลงทุน บ.อีเกิ้ลเกตส์ กรุ๊ป
ดีเอสไอ จับกุมหญิงไทยวัย 53 ปี ซึ่งเป็นแม่ทีมชักชวนผู้เสียหายในพื้นที่ภาคตะวันออกให้ร่วมลงทุนกับบริษัท อีเกิ้ลเกตส์ กรุ๊ป ซึ่งมีพฤติการณ์ฉ้อโกงประชาชน

วันนี้ (24 เม.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีบริษัท อีเกิ้ลเกตส์ กรุ๊ป จำกัด กับพวก อ้างว่า เป็นบริษัทซื้อขายดัชนีหุ้นมาจากสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งบริษัทมาแล้วกว่า 10 ปี ซึ่งพฤติการณ์ของขบวนการนี้มีการกระทำความผิดในลักษณะองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ แบ่งหน้าที่กันทำ

โดยให้กลุ่มหนึ่งจัดบรรยายชักชวนผู้เสียหายในประเทศไทย ให้หลงเชื่อร่วมลงทุนกับบริษัท และอีกกลุ่มหนึ่งทำหน้าที่ยักย้ายถ่ายโอนเงินหรือทรัพย์สินที่ได้จากผู้เสียหาย คดีนี้มีผู้เสียหาย 250 คน มูลค่าความเสียหาย 235 ล้านบาท

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีทั้งสิ้น 21 คน เป็นผู้ต้องหาชาวไทย 19 คน และชาวต่างชาติ 2 คน เป็นชาวอเมริกันและชาวไต้หวัน อยู่ระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาล

ส่วนผู้ต้องหาชาวต่างชาติที่เหลือ ซึ่งเป็นชาวอเมริกัน 1 คน ชาวเนเธอร์แลนด์ 3 คน และชาวสิงคโปร์ 3 คน อยู่ระหว่างประสานงานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างชาติ ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี

ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ดีเอสไอจับกุมตัวหญิงชาวไทยวัย 53 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ซึ่งเป็นแม่ทีมชักชวนผู้เสียหายจำนวนมากในพื้นที่ภาคตะวันออกให้ร่วมลงทุนด้วย

ก่อนหน้านี้ ศาลอาญาพิพากษาว่า กลุ่มจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติฯ พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นรายกระทง รวมโทษจำคุก คนละ 10 ปี แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้คนละหนึ่งในสาม คงจำคุกคนละ 6 ปี 8 เดือน และปรับจำเลยที่ 3, 5 และที่ 6 คนละ 1 ล้านบาท

หากไม่ชำระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 และให้จำเลยร่วมกันคืนต้นเงินให้แก่ผู้เสียหายทั้งหมด พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ส่วนจำเลยคนอื่นๆ อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล

นอกจากนี้ดีเอสไออยู่ระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาและบุคคลที่เกี่ยวข้องในความผิดฐานฟอกเงิน

พร้อมเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการชักชวนให้ลงทุน โดยอ้างว่าจะให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราที่สถาบันการเงินพึงจ่ายได้ แม้มีการสร้างความน่าเชื่อถือด้วยวิธีต่างๆ หรือการโฆษณาชวนเชื่อว่ามีชาวต่างชาติเป็นเจ้าของ ดังนั้นควรตรวจสอบก่อนตัดสินใจลงทุน หากพบเบาะแสสามารถแจ้งมาได้ที่สายด่วน DSI Call Center 1202

ข่าวที่เกี่ยวข้อง