แรงงานไทยไปทำงานนอกเพิ่ม หลังโควิด-19 ผ่อนคลาย

สังคม
16 ส.ค. 63
12:20
1,541
Logo Thai PBS
แรงงานไทยไปทำงานนอกเพิ่ม หลังโควิด-19 ผ่อนคลาย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยตัวเลขคนหางานเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ผ่านด่านตรวจคนหางานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิพุ่ง หลังสถานการณ์โควิด-19 ในไทยผ่อนคลาย ชี้การที่แรงงานไปทำงานต่างประเทศ ลดปัญหาการว่างงาน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและนำเงินกลับเข้าประเทศ

วันนี้ (16 ส.ค.2563) นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศเริ่มคลี่คลายลง โดยไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศ รวมทั้งรัฐบาลได้ดำเนินมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศที่ผ่อนคลายมากขึ้นนั้น พบว่าความต้องการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศของแรงงานไทยเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ เห็นได้จากสถิติคนหางานเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ผ่านด่านตรวจคนหางานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของกรมการจัดหางาน เดือนกรกฎาคม 2563 ที่มีจำนวน 2,394 คน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายน ที่มีคนหางานเดินทาง จำนวน 585 คน กว่า 4 เท่าตัว เดือนพฤษภาคม มีคนหางานเดินทาง 243 คน เดือนเมษายน มีคนหางานเดินทาง 557 คน และเดือนมีนาคม ที่เป็นระยะเริ่มต้นของการแพร่ระบาดที่มีคนหางานเดินทาง 3,737 คน

แรงงานไทยเป็นที่ต้องการของตลาด

"เพราะประเทศต่างๆ เริ่มกลับมาฟื้นฟูประเทศ เพื่อให้กิจกรรมด้านเศรษฐกิจกลับมาสู่สภาพปกติ และกำลังแรงงานถือเป็นปัจจัยการผลิตที่สำคัญของภาคธุรกิจ ซึ่งแรงงานไทยเป็นประเทศลำดับแรกๆ ที่ตลาดแรงงานในต่างประเทศต้องการ และติดต่อเข้ามา เนื่องจากแรงงานไทยมีวินัยในการทำงานและมีทักษะฝีมือดี ประกอบกับประเทศไทยมีการบริหารจัดการโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี จนเป็นที่ยอมรับ ทำให้โอกาสของแรงงานไทยในการไปทำงานต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะแรงงานประเภทฝีมือ และกึ่งฝีมือ"

อย่างไรก็ดี จะใช้โอกาสนี้ในการเพิ่มช่องทางให้แรงงานไทยได้มีตลาดทำงานในต่างประเทศมากขึ้น เพื่อให้แรงงานมีอาชีพ มีรายได้ ซึ่งจะลดปัญหาการว่างงานที่เกิดขึ้นภายในประเทศไทยได้ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และนำเงินกลับเข้าประเทศไทย ซึ่งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศของแรงงานไทย สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้เป็นจำนวนมาก

ขณะที่ผลมวลรวมในปี 2563 มีรายได้เข้าประเทศรวมทั้งสิ้นกว่า 73,434 ล้านบาท จำแนกเป็นเดือนมกราคม 12,270 ล้านบาท, กุมภาพันธ์ 10,305 ล้านบาท มีนาคม 11,361 ล้านบาท เมษายน 8,996 ล้านบาท พฤษภาคม 9,226 ล้านบาท และมิถุนายน 10,341 ล้านบาท และกรกฎาคม 10,935 ล้านบาท

5 วิธีเดินทางไปทำงานต่างประเทศ

นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า การไปทำงานต่างประเทศ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีทั้งหมด 5 วิธี คือ 1.การเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเอง 2.การเดินทางไปทำงานต่างประเทศโดยบริษัทจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง 3.การเดินทางไปทำงานต่างประเทศโดยกรมการจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง ได้แก่ โครงการจ้างตรง :ไต้หวัน โครงการ IM : ประเทศญี่ปุ่น โครงการ EPS: เกาหลี โครงการ TIC 4.นายจ้างในประเทศไทยพาลูกจ้างไปทำงานในต่างประเทศ และ 5.นายจ้างในประเทศไทยส่งลูกจ้างไปฝึกงานในต่างประเทศ

สำหรับแผนการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศช่วงหลังสถานการณ์โควิด-19 ระหว่างเดือน มิถุนายน-กันยายน 2563 ตั้งเป้าไว้ที่ 52,253 คน โดย คาดว่าจะส่งไปยังภูมิภาคเอเซีย เช่น ไต้หวัน 20,120 คน ญี่ปุ่น 3,818 คน สาธารณรัฐเกาหลี 6,421 คน มาเลเซีย 2,448 คน สิงคโปร์ 2,934 คน ภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้แก่ อิสราเอล 2,840 คน

แรงงานไทยทำงานที่ไต้หวันสูงสุด

ส่วนแรงงานไทยที่ยังทำงานอยู่ในต่างประเทศนั้น จากข้อมูลของกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศในเดือนกรกฎาคม 2563 มีจำนวน 121,922 คน อยู่ที่ในกลุ่มประเทศเอเชียและเอเชียใต้ 91,541 คน มากที่สุดคือไต้หวัน 59,375 คน กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง 24,312 คน มากที่สุดคืออิสราเอล 21,916 คน กลุ่มประเทศยุโรป อเมริกา และอื่นๆ 5,720 คน มากที่สุดคือฮังการี 693 คน และกลุ่มประเทศแอฟริกา 349 คน มากที่สุดคือแอฟริกาใต้ 115 คน

อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวอีกว่า ขอย้ำว่ารัฐบาลคำนึงถึงความปลอดภัยของแรงงาน และถือประโยชน์ของแรงงานไทยเป็นอันดับสูงสุด พิจารณาการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ จากมาตรการควบคุมป้องกัน และการสร้างความปลอดภัยให้กับแรงงานไทย ซึ่งสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครเขตพื้นที่ 1-10 และสายด่วน กระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง