วันนี้ (21 ส.ค.2563) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นำแถลงผลตัดวงจรกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด โดยใช้เทคโนโลยีสืบค้นธุรกรรมทางการเงินจนสามารถยึดทรัพย์ได้กว่า 500 ล้านบาท
พ.ต.ท.กรวัชร ปานประภากร อธิบดีกรมสอบาวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า การติดตามเครือข่ายยาเสพติดที่พบว่า มี น.ส.ชบา เป็นตัวกลางในการฟอกเงิน โดยใช้เวลาติดตามประมาณ 3 เดือน เเละใช้เทคโนโลยีสืบค้นธุรกรรมทางการเงินจนพบเป้าหมายในการตรวจค้น 5 จุด ใน จ.ชลบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ อีก 2 จุด
ทั้งนี้สามารถยึดของกลางเป็น ทองคำเเท่งน้ำหนัก 1,000 บาท มูลค่า 31 ล้านบาท พระเครื่อง เเละสร้อยคอทองคำ 35 รายการ มูลค่า 2 ล้านบาท ธนบัตรไทยเเละต่างประเทศมูลค่ากว่า 120,000 บาท บัญชีธนาคาร 65 บญชี มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท บ้านพร้อมที่ดิน 85 รายการ มูลค่า 340 ล้านบาท รถยนต์ 97 คัน มูลค่า 83 ล้านบาท กระเป๋าเเบรนด์เนม 11 ใบ มูลค่า 800,000 บาท รวมทรัพย์ทั้งหมดที่ยึดได้กว่า 500 ล้านบาท
นอกจากนั้นยังยึดไม้เเปรรูปที่อยู่ในโกดัง จ.สมุทรสาคร อีกจำนวนมาก ขณะนี้ให้กรมป่าไม้ตรวจสอบว่าเป็นไม้ชนิดใดเเละนำเข้าอย่างถูกกฎหมายหรือไม่
น.ส.รัศมี สีตลวรางค์ ผู้อำนวยการส่วนคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า กลุ่ม น.ส.ชบาทำหน้าที่รับเงินจากบุคคลอื่น เบื้องต้นพบว่ามีกว่า 60 คน โดยบัญชีที่มีเงินโอนเข้ามามากที่สุดในรอบ 1 ปี มีหมุนเวียนประมาณ 100 ล้านบาท เเละในบัญชีอื่นๆทำธุรกิจเเตกต่างกันไป เช่น สถานบันเทิง และธุรกิจผิดกฎหมายในหลายพื้นที่ หลังจากรับเงินมาเเล้ว น.ส.ชบา จะโอนเงินไปให้บุคคลอื่นต่อหลาย 10 บัญชี
ขณะนี้มีชื่อบัญชีปลายทางเเล้ว ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบขยายผล เเต่ส่วนใหญ่พบเป็นชื่อบัญชีคนไทย เเละมีชาวต่างชาติประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย มีเงินหมุนเวียนของเครือข่ายนี้กว่า 10,000 ล้านบาท
รมว.ยุติธรรม ระบุว่า กลุ่มของ น.ส.ชบา เป็นเพียงกลุ่มเล็กที่สุดที่เจ้าหน้าที่สืบสวนโดยใช้เทคโนโลยีเเบบใหม่ เเละพบว่ามีการกระทำในลักษณะอีกไม่น้อยกว่า 20 กลุ่ม เจ้าหน้ามี่มีข้อมูลหมดเเล้ว กำลังสืบสวนธุรกรรมทางการเงิน
ตลอด 7 เดือนที่ผ่านมา มีการยึดทรัพย์กลุ่มเครือข่ายยาเสพติดเเล้ว 5 ครั้ง รวมมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท โดยนโยบายจะเน้นตัดเส้นทางการเงินไม่ฝห้กลับเข้าสู่กระบวนการผลิตยาเสพติดจะได้ไม่มีเงินต้นทุนในการผลิต
ตั้งเป้าปีหน้า ตัดวงจรธุรกรรมทางการเงินของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดให้ได้กว่า 6,000 ล้านบาท