วันนี้ (2 พ.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นวันแรกที่ กกต.เปิดรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศ และตามกำหนดการจะเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 2-6 พ.ย.นี้
ขณะที่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ย้ำเตือนให้ผู้สมัครทุกคนต้องตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เพราะหากผู้สมัครรับเลือกตั้งคนใดกระทำการฝ่าฝืนมาตรา 40 และ 50 ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น อาจต้องโทษในดคีอาญาได้
สำหรับคุณสมบัติต้องห้ามตามที่ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น มีเกือบ 30 ข้อ อาทิ ต้องไม่ถือหุ้นในบริษัทหรือกิจการใดๆ ตามที่กฎหมายกำหนด หรือกรณีการถือครองหุ้นสื่อ เคยถูกไล่ออกจากราชการ การลงโทษถูกจำคุกและเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ซึ่งหากกระทำผิดกฎหมายอาญาแล้วอาจทำให้เกิดความยุ่งยากทั้งการต้องถอนใบสมัคร หรือการตีความของผู้อำนวยการการเลือกตั้งท้องถิ่น ในฐานะผู้รับผิดชอบในการเปิดสมัครเลือกตั้งในเขตพื้นที่ทั้ง 76 จังหวัด เพราะที่ผ่านมาเคยเกิดขึ้นกับ ส.ส. และ ส.ว.มาแล้ว
เลขาธิการ กกต. ยอมรับว่า หลายพรรคกังวลข้อห้ามตาม มาตรา 34 ใน พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น เพราะเกรงว่าหาก ส.ส. ส.ว. หรือข้าราชการการเมือง เข้าไปช่วยเหลือผู้สมัคร นายก อบจ.จะผิดกฎหมายหรือไม่
ประธาน กกต.สังเกตการณ์รับสมัคร อบจ.
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ลงพื้นที่สังเกตการณ์ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อมระบุว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการรับสมัครเลือกตั้งท้องครั้งนี้ ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายใหม่ พร้อมทั้งให้คำแนะนำผู้สมัครระมัดระวังไม่ให้กระทำผิดกฎหมาย เช่น การจัดมหรสพต่างๆ และตรวจสอบคุณสมบัติให้ครบถ้วน
ประธาน กกต. ระบุอีกว่า กฎระเบียบข้อห้ามต่างๆ จะไม่กระทบต่อความเป็นสถาบันทางการเมือง เนื่องจากการสมัครเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นการสมัครในนามบุคคล และพรรคการเมืองก็สามารถให้การสนับสนุนผู้สมัครได้ เช่น การติดโลโก้พรรคคู่กับผู้สมัคร แต่เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและมีพรรคการเมือง 2 พรรคคือ พรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทย สอบถามเรื่องบทบาทของพรรคการเมืองต่อการเลือกตั้งท้องถิ่นเข้ามา ดังนั้นในวันพรุ่งนี้ (3 พ.ย.) กกต.จะหารือและตอบข้อซักถามพรรคการเมืองเพื่อให้เกิดความชัดเจนอีกครั้ง