วันนี้ (5 พ.ย.2563) ตัวแทนนักศึกษาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยื่นหนังสือต่อพรรคประชาชาติ เรียกร้องความเป็นธรรมกรณีเจ้าหน้าที่รัฐคุกคามการแสดงออกทางการเมือง โดยนายอับดุบเลาะ สิเดะ นักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะรองประธานสมาพันธ์นักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การแสดงออกของตนเองต้องการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยให้มีรัฐธรรมนูญเป็นรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยที่ไม่มีส่วนผสมของเผด็จการ ยืนยันว่าการแสดงออกทางการเมืองที่ผ่านมาไม่ได้อยู่นอกกฎหมาย หรือเป็นกระทำผิดที่ละเมิดต่อสิทธิมนุษยชน สิ่งเหล่านี้เป็นความชอบธรรม เป็นสิทธิเสรีภาพที่จะแสดงออก แต่กลับมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปหาตนเองที่บ้านภูมิลำเนา ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ขณะที่ตนเองอยู่กรุงเทพฯ โดยตำรวจสถานีตำรวจภูธรปะแตเข้าไปหาที่บ้านภูมิลำเนาถึง 2 ครั้ง มีการบอกว่าจะเชิญตนเองไปที่สถานีตำรวจเพื่อทำการสอบสวน โดยไม่มีหมาย ไม่มีเอกสารใดๆ ซึ่งตำรวจมีการโชว์หน้าเฟซบุ๊กของตนเอง และบอกว่ามาหาบุคคลที่ปรากฏในเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นแกนนำ แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นแกนนำอะไร สร้างความวิตกกังวลไม่ใช่แค่คนในครอบครัว แต่รวมถึงคนในหมู่บ้านและบุคคลโดยรอบ
อ้างถูกคุกคาม หลังชุมนุมสนามหลวง
นายสูฮัยมี ลือแบซา นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กล่าวว่า ตนเองถูกคุกคามหลังจากร่วมปราศรัยเวทีการชุมนุมที่สนามหลวง เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารกลุ่มหนึ่งเข้าไปที่บ้าน สอบถามข้อมูลส่วนตัว ใช้คำพูดข่มขู่ โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ ทำให้บุคคลที่บ้านไม่สบายใจต่อการประพฤติปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ มีการโทรหาตนเองขณะนั้นอยู่ที่มหาวิทยาลัย มีข่าวแว่วๆ มาว่า มีการสั่งการมาจากข้าราชการในพื้นที่ ทางฝ่ายปกครองท้องถิ่น ให้สอดส่องห้ามปรามตนเองไม่ให้ขึ้นไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการจำกัดสิทธิในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลในแง่การขอข้อมูลส่วนตัวโดยที่เจ้าของไม่ได้ยินยอม
"ประชาชาติ" รับเรื่องไปดำเนินการต่อ
นายซูการ์โน มะทา ส.ส.ยะลา พรรคประชาชาติ กล่าวว่า กลุ่มนักศึกษามายื่นหนังสือร้องเรียนถึงกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐคุกคามการแสดงออกทางการเมือง ตนเองในฐานะ ส.ส.พรรคประชาชาติ โดย ส.ส.ส่วนใหญ่ก็อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็จะรับเรื่องนี้ไปดำเนินการ ทำหนังสือแจ้งยังหน่วยงานต้นสังกัด โดยเฉพาะสถานีตำรวจภูธรปะแต ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง มีการตั้งข้อสงสัยคุกคามสิทธิเสรีภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยใช้กฎหมายพิเศษ คือ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐหยุดคุกคามนักเรียน นิสิต นักศึกษา เพราะเป็นการแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพรัฐธรรมนูญ ซึ่งนักเรียน นิสิต นักศึกษา ยื่นต่อคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน โดยจะดำเนินการ 2 รูปแบบ คือดำเนินการในนามพรรคประชาชาติ และในฐานะที่มีตัวแทนของพรรคประชาชาติอยู่ในคณะกรรมาธิการ ก็ต้องเรียกเจ้าหน้าที่ที่ข่มขู่นักศึกษาตามที่กล่าวหาทั้งหมด มาสอบถามข้อเท็จจริง และคงจะต้องเข้มงวด ขอให้หยุดการคุกคามสิทธิเสรีภาพของผู้ที่ออกมาเรียกร้อง ภายใต้กรอบของกฎหมาย
เสนอใช้กฎหมายปกติดูแลชุมนุมการเมือง
นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ ในคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า แม้ในเขตกรุงเทพฯ ยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในฉุกเฉิน แต่พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ได้มีการยกเลิก เพราะมีการบังคับใช้มา 10 กว่าปีแล้ว โดยมีเจตนารมณ์เพื่อบังคับใช้กับเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จึงไม่อยากเห็นภาพที่นำกฎหมายพิเศษเหล่านี้มาใช้ควบคุมการชุมนุมก็ หากจะดำเนินการ ก็ควรดำเนินการตามกฎหมายปกติเช่นเดียวกับในพื้นที่กรุงเทพฯ