ความคืบหน้ากรณีเมื่อคืนวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้เสียหายซึ่งเป็นสมาชิกสภา อบต.บ้านคำนกกก จ.นครพนม ถูกสามีและลูกน้องของหญิงปล่อยเงินกู้ ที่คนในพื้นที่เรียกว่า "เจ๊ปากแดง" ทวงหนี้และรุมทำร้ายถึงบ้านพัก โดยใช้ปืนตบที่ใบหน้า จนผู้เสียหายต้องเย็บแผล 3 เข็ม
ผู้เสียหาย เล่าว่า ได้กู้เงินหญิงคนดังกล่าว 20,000 บาท และจ่ายเงินต้นไปแล้ว 5,000 บาท โดยตกลงกันว่าจะจ่ายดอกเบี้ย วันละ 400 บาท ซึ่งช่วงที่ผ่านมาไม่จ่ายเงิน เพราะอยู่ในช่วงสถานการณ์ COVID-19 กระทั่งนำมาสู่การทวงหนี้ ยืนยันว่า มีผู้ก่อเหตุทั้งหมด 5 คน ชุดแรกมา 2 คน พังประตูบ้านเข้ามาทำร้าย แต่ยังต่อสู้กันได้ จากนั้นสามีของเจ๊ปากแดงนำลูกน้องเข้ามาอีก รวมเป็น 5 คน รุมทำร้ายตัวเอง แต่โชคดีที่มีคนแถวบ้านมาเห็นกลุ่มเงินกู้เข้ามาที่บ้านในช่วงกลางวัน จึงมีคนเข้ามาช่วยได้ทัน ทั้งนี้ตัวเองเคยต่อรองกับเจ้าหนี้ขอให้พักดอกเบี้ยช่วง COVID-19 แต่เจ้าหนี้ไม่ยอม
กลุ่มผู้ก่อเหตุมอบตัว-ปฏิเสธทุกข้อหา
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (12 ธ.ค.) กลุ่มผู้ก่อเหตุ ได้แก่ น.ส.มาลี วรสวัสดิ์ หรือเจ๊ปากแดง นายสุวพรรดิ์ ดำคลองตัน สามี และนายอารยะ เล็กคู ลูกน้อง เข้าขอมอบตัวและรับทราบข้อกล่าวหากับตำรวจ สภ.บ้านแพง เบื้องต้นตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา เช่น ร่วมกันให้ผู้อื่นกู้เงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่ากำหนด ร่วมกันทวงหนี้โดยการข่มขู่ใช้ความรุนแรงร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ และมีปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยผู้ก่อเหตุให้การปฏิเสธทุกข้อหา
น.ส.มาลี กล่าวว่า ขอปฏิเสธทุกข้อหา ไม่ได้ทำธุรกิจปล่อยเงินกู้ตามที่ผู้เสียหายอ้างถึง ส่วนตัวมีอาชีพค้าขายและไม่ขอให้รายละเอียด ซึ่งจะต่อสู้ตามกระบวนการกฎหมายต่อไป
ต่อมา ตำรวจ สภ.บ้านแพง ได้ส่งตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดนครพนมโดยคัดค้านประกัน แต่สุดท้าย น.ส.มาลี และพวก ได้รับการประกันตัว วางเงินคนละ 50,000 บาท
ลูกหนี้หวั่นไม่ปลอดภัย
ขณะที่ผู้เสียหายคนอื่น ๆ เล่าว่า ทุกคนกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตัวเอง ไม่กล้าไปไหนมาไหนคนเดียว หากเดินทางจะเลือกเดินทางในถนนหมู่บ้าน ไม่กล้าไปทางสาธารณะ เพราะกลัวถูกลูกน้องเจ๊ปากแดงทำร้าย ขณะนี้หลายคนเริ่มหลบหนีไปบ้านญาติที่ต่างจังหวัดแล้ว
ส่วนเรื่องการดำเนินคดี ผู้เสียหายได้ร่วมลงชื่อยื่นศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดในวันพรุ่งนี้ (14 ธ.ค.) หากไม่ได้ความเป็นทำจะยื่นกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยผู้เสียหายฝากถึงรัฐบาลช่วยดูแลเรื่องหนี้นอกระบบ ยืนยันที่ผ่านมาไม่ได้ปฏิเสธจ่ายเงิน แต่เป็นการจ่ายดอกเบี้ยซึ่งน่าจะสูงกว่าเงินต้นหลายหมื่น ดังนั้นจึงขอให้มีการพักดอกและนำเงินไปหักเงินต้นบ้าง แต่ที่ผ่านมาเจ้าหนี้ไม่รับข้อเสนอนี้