วันนี้ (11 พ.ค.2564) นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวถึงกรณีที่มีโรงพยาบาลเอกชนออกมาระบุว่า องค์การเภสัชกรรมคิดค่าบริหารจัดการวัคซีน COVID-19 ทางเลือก 10% เพิ่มเติมจากค่า Vat 7% นั้น ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง
ผอ.องค์การเภสัชกรรม ระบุว่า อภ.เป็นเพียงหน่วยงานที่อำนวยความสะดวกในการซื้อวัคซีนทางเลือก ซึ่งในหลักปฏิบัติทางโรงพยาบาลเอกชนจะมีการสั่งซื้อจากบริษัทผู้ผลิตวัคซีน เมื่อเจรจาได้แล้วจำนวนเท่าไหร่ ก็จะต้องนำจำนวนวัคซีนที่ได้ไปบวกเพิ่มค่าจัดส่ง ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการประมาณ 3-5% และค่า Vat 7%
ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นค่าจัดส่ง ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ และค่า Vat เป็นสิ่งที่โรงพยาบาลเอกชนจะต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้ อภ.ซื้อวัคซีนให้กับกรมควบคุมโรค ก็จะต้องมีการคิดค่าจัดส่ง ค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ และค่า Vat ในอัตราเดียวกันนี้เช่นกัน แต่ยืนยันว่าไม่มีการบวกเพิ่มค่าบริหารจัดการ 10% ตามที่มีข่าวแต่อย่างใด
ผอ.องค์การเภสัชกรรม ย้ำว่า อภ.เป็นหน่วยงานกลางอำนวยความสะดวกจัดซื้อวัคซีนเท่านั้น ไม่มีการบวกเพิ่มและไม่ได้หากินบนความทุกข์ของประชาชน ซึ่ง อภ.ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อความมั่นคงทางด้านยาและเวชภัณฑ์ของประเทศ โดยเฉพาะในภาวะโรคระบาด
"อนุทิน" ย้ำไม่หักหัวคิว-ทุกอย่างเป็นไปตามกลไก
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า กลไกซื้อขายวัคซีนตามปกติ จะต้องมีค่าดำเนินการตรวจแล็บตรวจคุณภาพวัคซีน ค่าจัดส่ง รวมถึงค่า Vat ที่ซื้อมาขายไป เป็นเรื่องปกติ เหมือนกับกรณีการจัดซื้อวัคซีนของกรมควบคุมโรคที่สั่งซื้อวัคซีนซิโนแวค ก็ต้องจ่ายค่าดำเนินการส่วนนี้
ยืนยันว่าเป็นระเบียบการซื้อขายตามปกติ ไม่มีการคิดค่าหัวคิว
รมว.สาธารณสุข ระบุอีกว่า การที่ อภ. เข้ามาเป็นสะพานกลางเชื่อมระหว่างผู้ผลิตวัคซีนกับโรงพยาบาลเอกชน เป็นไปตามคำขอที่ภาคเอกชนระบุว่าไม่สามารถจัดซื้อได้เอง ทำให้ อภ.เข้ามาช่วยซื้อ ซึ่งไม่ใช่ภารกิจหลักของ อภ. ทั้งนี้การจัดซื้อวัคซีนจะสั่งซื้อตามจำนวนและตามความต้องการของเอกชนทั้งหมด