หอการค้าฯ ประเมินยกระดับคุมโควิด ธุรกิจเสียหายเพิ่มวันละ 1-2 พันล้าน

เศรษฐกิจ
27 มิ.ย. 64
19:57
475
Logo Thai PBS
หอการค้าฯ ประเมินยกระดับคุมโควิด ธุรกิจเสียหายเพิ่มวันละ 1-2 พันล้าน
สภาอุตสาหกรรมฯ ขอให้ผู้ประกอบการเพิ่มความเข้มงวดควบคุมการระบาด เพื่อไม่ให้รัฐบาลยกระดับไปสู่การล็อกดาวน์ธุรกิจอื่นเพิ่มเติม ขณะที่หอการค้าฯ ประเมินธุรกิจเสียหายวันละ 1,000-2,000 ล้านบาท

วันนี้ (27 มิ.ย.2564) นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แม้การประกาศยกระดับมาตรการป้องกัน COVID-19 ที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ จะต้องการควบคุมการแพร่ระบาดและสร้างความมั่นใจในการเปิดประเทศในอนาคต แต่สิ่งสำคัญที่ต้องทำควบคู่กันไป คือเร่งฉีดวัคซีนในพื้นที่เสี่ยงที่มีการระบาดมาก

และที่สำคัญการประกาศมาตรการคุมเข้มไม่ควรให้มีระยะเวลานานเกินไป เพราะกระทบเศรษฐกิจ และควรมีมาตรการเยียวยาช่วยเหลืออย่างเข้มข้นและตรงถึงผู้ประกอบการ แม้การประกาศครั้งนี้จะจำกัดบางพื้นที่ แต่หลายธุรกิจกระทบซ้ำ สะสมมาหลายระลอก โดยเฉพาะร้านอาหาร กลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มผู้ใช้แรงงานในภาคบริการที่อาจจะตกงานในอนาคตอีก เนื่องจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด ซึ่งต้องติดตามมาตรการเยียวยาประคองธุรกิจ

ขณะที่มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่า จะเกิดความเสียหายเพิ่มจากเดิมประมาณวันละ 1,000-2,000 ล้านบาท และยังไม่แน่ใจว่าจะมีมาตรการใดออกมาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ โดยคำนวนแล้วจะอยู่ที่ประมาณเดือนละ 30,000-60,000 ล้านบาท คาดว่าจะกระทบต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ประมาณ 0.1-0.3%

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า ภาคเอกชนและประชาชนต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อควบคุมการระบาดให้ได้ เพราะหากมาตรการนี้คุมไม่ได้ รัฐบาลอาจจะต้องยกระดับไปสู่การล็อกดาวน์บางธุรกิจเพิ่มเติม

นอกจากนี้ยังขอให้รัฐบาลดูแลธุรกิจที่ได้รับผลกระทบใน 10 จังหวัดเป็นพิเศษ ส่วนสภาอุตสาหกรรมฯ ได้ออกคู่มือให้กับโรงงานต่าง ๆ ในการรับมือกรณีที่พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 พร้อมเร่งฉีดวัคซีนให้กลุ่มแรงงานที่เป็นส่วนสำคัญในการประคองเศรษฐกิจ เพราะการผลิตเพื่อการส่งออก เป็นเครื่องจักรเศรษฐกิจเดียวที่เหลืออยู่ หากเดินต่อไปไม่ได้ก็จะยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยให้เลวร้ายลงไปอีก

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง