ท่ามกลางกระแสรุมเร้าทั้งสถานการณ์ COVID-19 และการชุมนุมทางการเมืองกระทบต่อความมั่นคงอย่างปฏิเสธไม่ได้
และเป็นช่วงเวลาเดียวกับการปรับเปลี่ยนตำแหน่งสำคัญ ของหน่วยงานความมั่นคงตามวาระเกษียณ
หนึ่งในนั้นคือ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ แทน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่เป็นมือทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รับมือสถานการณ์ COVID-19 มาโดยตลอด
จึงคาดหมายว่า บุคคลที่พล.อ.ประยุทธ์ เคาะรายชื่อ เลือกเป็นขุนพลสู้โควิดคนใหม่ ย่อมต้องมีผลงานร่วมแก้ปัญหา COVID-19 และเต็งหนึ่งในขณะนี้คือ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เสนาธิการทหาร ที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง หรือ ศปม.มาตั้งแต่การระบาดระลอกช่วงต้นปี 2563
หากมานั่งเก้าอี้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ก็จะต้องทำหน้าที่ผอ.ศปก.ศบค. ตามโครงสร้างการบริหารของ ศบค.และไม่ใช่เพียงสถานการณ์โควิด แต่ยังมีมิติความมั่นคงด้านอื่นๆที่ต้องรับมือ
ข้ามมาที่การปรับเปลี่ยนตำแหน่งในกองทัพเข้มข้นในโค้งสุดท้ายที่คาดการณ์ว่า เหล่าทัพต่างๆ จะส่งรายชื่อถึงมือ พล.อ.ประยุทธ์ และเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร 7 คน ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ นั่งหัวโต๊ะ ช่วงสัปดาห์หน้า
ตำแหน่งสำคัญที่ปรับเปลี่ยนในปีนี้คือปลัดกระทรวงกลาโหม ,ผบ.ทร.และผบ.ทอ.ที่จะเกษียณราชการ ส่วนผบ.ทหารสูงสุด และผบ.ทบ.จะอยู่ในตำแหน่งยาวถึงปี 2566
จับตาตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมคนใหม่ ระหว่าง พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ เสนาธิการทหารบก หรือ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย รองปลัดกระทรวงกลาโหม แต่อาจเป็นไปได้ว่า พล.ร.อ.สมประสงค์ จะถูกคืนความชอบธรรมกลับมากองทัพเรืออีกครั้ง ขึ้นเป็น ผบ.ทร.แทน พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน
แต่ขณะเดียวกัน กองทัพเรือก็ยังมีแคนดิเดต ชิงเก้าอี้ ผบ.ทร.อีกถึง 3 คน คือ พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ เสนาธิการทหารเรือ, พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ ผบ.กองเรือยุทธการ และพล.ร.อ.ทรงวุฒิ บุญอินทร์ ผช.ผบ.ทร.
ขณะที่ กองทัพอากาศ แคนดิเดต ผบ.ทอ.มีคุณสมบัติไม่ธรรมดา ล้วนเติบโตมาจากนักบินขับไล่ และมีขีดความสามารถไม่น้อยไม่กว่ากัน ทั้งพล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ,พล.อ.อ.สฤษฎ์พงศ์ วัฒนวรางกูร และพล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา
หากแต่ภาพรวมการจัดแถวทหารของแต่ละเหล่าทัพทั้งหมด ยังคงขึ้นอยู่กับ ผบ.เหล่าทัพจะพิจารณาเสนอเป็นหลัก ด้วยกว่า 2 ปีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหม ซื้อใจกองทัพประกาศไว้อย่างชัดว่า จะไม่แทรกแซงการปรับย้ายนายทหาร โดยเฉพาะตำแหน่งระดับผบ.เหล่าทัพ