ตร.ไม่พบการฝ่าฝืน หลังอนุญาตขาย-ดื่มเหล้าในร้านอาหาร

อาชญากรรม
2 พ.ย. 64
13:05
188
Logo Thai PBS
ตร.ไม่พบการฝ่าฝืน หลังอนุญาตขาย-ดื่มเหล้าในร้านอาหาร
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยยังไม่พบการฝ่าฝืน หลังผ่อนผันให้จำหน่ายและดื่มสุราในสถานประกอบการ พร้อมกำชับให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรทั่วประเทศ เน้นประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและผู้ประกอบการให้ความร่วมมือ

วันนี้ (2 พ.ย.2564) จากกรณีการเปิดประเทศ เพื่อรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและการผ่อนผันให้สถานประกอบการที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถจำหน่ายและดื่มสุราภายในร้านได้ถึง 21.00 น.

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ได้ให้นโยบายไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรทั่วประเทศ ส่วนในพื้นที่ กทม. ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และตัวแทน กทม.เชิญผู้ประกอบการ มาหารือมาตรการจำหน่ายและดื่มสุรา โดยมาตรการนี้ต้องอาศัยความร่วมมือของประชาชน และผู้ประกอบการ

ขณะที่ตำรวจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สาธารณสุข จัดชุดตระเวนออกตรวจตามสถานประกอบการต่างๆ เพื่อเพิ่มความเข้มงวด โดยจะเน้นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจและให้ความร่วมมือ เพราะเข้าใจในปัญหาเศรษฐกิจขณะนี้ จึงจำเป็นต้องใช้ทั้งหลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์เข้าไปดูแล

ส่วนสถานประกอบการ ผับบาร์คาราโอเกะ ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ หากพบการฝ่าฝืนในส่วนนี้ ตำรวจจะเข้าไปบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด

สำหรับภาพรวมการกวาดล้างอาชญากรรมระหว่างวันที่ 20 - 31 ต.ค.2564 จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด และยึดยาเสพติดของกลาง จำนวน 30,582 คดี คดีอาวุธปืนและยึดอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุน 5,505 คดี คดีค้ามนุษย์จำนวน 7 คดี

ระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตั้งแต่วันที่ 20 - 31 ต.ค.2564 พบว่ามีทั้งคดีหลอกลวงทางการเงินและการลงทุน

การหลอกลวงจำหน่ายสินค้า/ขายสินค้าออนไลน์ผิดกฎหมาย, คดีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ, คดีเกี่ยวกับเพศ สื่อลามก และการพนันออนไลน์ สามารถจับกุมรวม 3,964 คดี ผู้ต้องหา 3,804 คน

โดยมีคดีที่สำคัญ เช่น คดีจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างตัวเป็นตำรวจ หลอกผู้เสียหายว่ามีส่วนร่วมกับคดียาเสพติดและฟอกเงิน ถ้าไม่อยากถูกดำเนินคดีให้โอนเงินไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ มีผู้เสียหายหลงเชื่อหลายคน มูลค่าความเสียหายกว่า 13 ล้านบาท

คดีจับกุม น.ส.ชนิตกานต์ แม่ค้าหลอกขายโทรศัพท์มือถือ และสินค้าอื่นๆ โดยการโพสต์รูปโทรศัพท์ ประกาศขายในราคาถูกตามสื่อสังคมออนไลน์ แต่กลับไม่ส่งสินค้าให้กับลูกค้า มีผู้เสียหายทั่วประเทศ 50 คน ความเสียหายกว่า 400,000 บาท

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ อยู่ระหว่างพัฒนาระบบบริการรับแจ้งความออนไลน์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน สามารถแจ้งความทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ โดยมีตำรวจให้คำปรึกษาแนะนำประชาชนได้ คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ พร้อมให้บริการกับประชาชนได้ ภายในเดือน พ.ย.นี้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ด่วน! ร้านค้าในตลาดจตุจักรไฟไหม้ จนท.เร่งคุมเพลิง

ปิดตำนาน 54 ปี เริ่มทุบทิ้ง "สกาลา" โรงหนังในความทรงจำ

นายกฯ ประกาศต่อ COP26 ไทยพร้อมยกระดับแก้วิกฤตภูมิอากาศ

"นิพนธ์" พร้อมสู้ทุกศาลปมทุจริตจัดซื้อรถซ่อมบำรุงทาง

หยุดทำลายป่า! ภายในปี 2573 ข้อตกลงฉบับแรก COP26 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง