ยุโรปกลายเป็นจุดศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากผู้ติดเชื้อในหลายประเทศเพิ่มขึ้นอีกระลอก ณ วันนี้ประเทศเดนมาร์กต้องกลับมาใช้ชีวิตเหมือนช่วงก่อนเกิดโควิด-19 แม้ก่อนหน้านี้จะประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมโรคทั้งหมดแล้ว
ประเทศเดนมาร์กเป็นบทเรียนที่แสดงให้เห็นว่า การเปิดทางให้ประชาชนใช้ชีวิตตามปกติ อาจไม่ใช่แนวทางอยู่ร่วมกับโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพมากพอในยุคนี้
เมื่อเดือน ก.ย.2564 ประเทศเดนมาร์กประกาศว่าโควิด-19 ไม่ใช่ภัยคุกคามขั้นวิกฤตของประเทศอีกต่อไป นำไปสู่การยกเลิกมาตรการควบคุมโรคทั้งหมด ให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตกันตามปกติ เข้าร้านอาหารและสถานบันเทิง โดยไม่แสดงวัคซีน พาสปอร์ต ไม่สวมหน้ากากอนามัย และไม่รักษาระยะห่างอีกต่อไป
หลายคนแสดงความยินดีที่จะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างอิสระอีกครั้ง หลังจากต้องอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มงวดเป็นเวลานานหลายเดือน
แต่ขณะนี้ประเทศเดนมาร์ก มีผู้ติดเชื้อเริ่มกลับมาสูงกว่า 2,000 คน ติดต่อกันเป็นวันที่ 5 แล้ว แม้ว่าเดนมาร์กจะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สูงที่สุดในยุโรป
ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งยุโรป ระบุว่าร้อยละ 88.3 ของประชาชนไม่ต่ำกว่า 5,800,000 คน ได้รับวัคซีนครบแล้ว แต่อัตราการติดเชื้อของประเทศเดนมาร์กกลับเพิ่มขึ้น จากร้อยละ 1.2 เมื่อช่วงกลางเดือน ก.ย. เป็นร้อยละ 2.3 เมื่อช่วงปลายเดือน ต.ค.
นายกรัฐมนตรีเมตต์ เฟรดเดอริกเซน ผู้นำเดนมาร์ก เตรียมเสนอรัฐสภาให้อนุมัติการประกาศให้โควิด-19 เป็นภัยคุกคามขั้นวิกฤตและจะนำมาตรการต่าง ๆ กลับมาใช้อีกครั้ง หลังจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของประเทศเดนมาร์ก ประเมินว่าการแพร่ระบาดของโควิดจะพุ่งสูงขึ้นในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้านี้และมีแนวโน้มระบาดรวดเร็วกว่าที่คาดไว้
หากรัฐสภาเดนมาร์กอนุมัติข้อเสนอดังกล่าว จะทำให้ประชาชนต้องกลับมาใช้วัคซีน พาสปอร์ต ก่อนเข้าใช้บริการในสถานที่ต่าง ๆ หากมีผู้ใช้บริการมากกว่า 200 คนขึ้นไป เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว องค์การอนามัยโลก ระบุว่ายุโรปได้กลับมาเป็นศูนย์กลางระบาดของโควิด-19 อีกครั้ง หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อหลายประเทศทั่วยุโรปกลับมาสูงขึ้นอีกระลอก
หลายประเทศในยุโรป เริ่มหันมาให้ความสนใจกับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เช่น ออสเตรียและเยอรมนี ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้แก่บุคคลทั่วไป ขณะที่ฝรั่งเศสฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้แก่ผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาสุขภาพและผู้ดูแลใกล้ชิด
ที่มา : Reuters ,CNN ,Deutsche Welle News ,ECDC