นักวิชาการเชื่อ อบต.เสริมกำลังโอนย้ายงานท้องถิ่นกระจายอำนาจ

การเมือง
28 พ.ย. 64
19:04
220
Logo Thai PBS
นักวิชาการเชื่อ อบต.เสริมกำลังโอนย้ายงานท้องถิ่นกระจายอำนาจ
นักวิชาการเชื่อ อบต.เสริมกำลังโอนย้ายงานท้องถิ่นกระจายอำนาจ โดยเฉพาะงานโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อเดินหน้าแก้ปัญหาด้านสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมมั่นใจว่าหลังการเลือกตั้งจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ประชาชนที่จะเข้ามาตรวจสอบการทำงานท้องถิ่นมากขึ้น

วันนี้ (28 พ.ย.2564) รศ.ธนพร ศรียากูล คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. ให้สัมภาษณ์กับไทยพีบีเอส เกี่ยวกับความคาดหวังหลังการเลือกตั้ง อบต.ในรอบ 8 ปี โดยระบุว่า การกระจายอำนาจให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อบต.ตามแผนปี 2543 - 2549 ต้องมีการถ่ายโอนภารกิจท้องถิ่น 245 งาน ซึ่งถ่ายโอนแล้ว 186 ภารกิจ หรือประมาณ 75% ส่วนแผน 2 ถ่ายโอนไปแล้ว 77 งาน หรือประมาณ 67.54%

ถามว่าวันนี้ อบต.ทำหน้าที่ตอบสนองความต้องการท้องถิ่นได้หมดทั้งถนน ประปา ไปจนถึงการจัดเก็บขยะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานที่คนอื่นไม่ทำ

รศ.ธนพร ระบุอีกว่า ทำอย่างไรหลังเลือกตั้ง อบต.จะตอบความคาดหวังของประชาชน ต้องบอกว่าในขณะนี้เรื่องสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ แต่ปัจจุบันข้อมูลพบว่าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ประมาณ 7,000 แห่ง ถ่ายโอนมาอยู่กับ อบต. เพียง 80 แห่งเท่านั้น ซึ่งเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้การควบคุมโรคหรือบริหารงานด้านสาธารณสุขประสบปัญหาอย่างมากในพื้นที่ต่างจังหวัด

หลังเลือกตั้ง อบต.แล้ว การเรียกร้องให้ถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลมาที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะมีเสียงดังมากขึ้น เพราะเป็นหน่วยบริการที่ใกล้ชิดกับชาวบ้านมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม รศ.ธนพร มองว่า การทำงานของ อบต.หลังจากนี้ ยังมีอุปสรรคอยู่ทั้งเรื่องส่วนกลางยังมองว่าท้องถิ่นไม่พร้อมในหลาย ๆ ด้าน แม้ท้องถิ่นจะมีการเตรียมความพร้อมอยู่นานแล้ว โดยเฉพาะการพัฒนาความรู้ความสามารถและประสบการณ์ ขณะเดียวกันยังมีปัญหาการไม่กระจายอำนาจทางการคลัง ซึ่งจะเห็นว่าหากรัฐบาลเร่งจัดสรรงบประมาณให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็จะทำให้ในพื้นที่มีศักยภาพในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนมากขึ้น

ทั้งนี้ รศ.ธนพร มั่นใจว่า การเลือกตั้ง อบต.จะนำมาสู่ความเปลี่ยนแปลงในท้องถิ่นได้ โดยเฉพาะการที่ประชาชนทุกคนในพื้นที่จะเข้ามามีบทบาทในการตรวจสอบการทำงานของคนที่ตัวเองเลือกเข้ามาทำงานว่านำภาษีไปใช้อย่างถูกต้องและคุ้มค่าหรือไม่ ซึ่งจะแตกต่างจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำแหน่งสำคัญในส่วนกลาง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง