เดินหน้า​ "ห้องเรียนสู้ฝุ่น" 140 แห่ง​ทั่วไทย​ ประสานลาวร่วมฝ่าวิกฤต

สิ่งแวดล้อม
10 ธ.ค. 64
14:54
601
Logo Thai PBS
เดินหน้า​ "ห้องเรียนสู้ฝุ่น" 140 แห่ง​ทั่วไทย​ ประสานลาวร่วมฝ่าวิกฤต
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สสส.ร่วมกับเครือข่าย​ เดินหน้าห้องเรียนสู้ฝุ่นเพิ่มเป็น​ 140​ แห่งภาคเหนือ​ -​ อีสาน พร้อมประสานลาวรับหลักสูตรเรียนรู้ฝุ่นแก้ปัญหา​ PM2.5​ ข้ามแดน
ถ้าอากาศดีไลเคนอยู่​ ถ้าอากาศเสีย​ ไลเคนตาย

ไลเคน​ หรือสิ่งมีชีวิตเกาะตามต้นไม้​ กลายเป็นแหล่งเรียนรู้และทดลองวิทยาศาสตร์เรื่องฝุ่นของครูและนักเรียนโรงเรียนบ้านปิน​ ปินประชาราษฎร์​ ต.บ้านปีน​ อ.ลอง​ จ.แพร่ เพื่อประเมินสภาพอากาศในพื้นที่

 

แว่นขยายและกระบอกฉีดน้ำคืออาวุธการเรียนรู้ชีวิตไลเคนบนต้นไม้ชิ้นสำคัญที่​นางณัจยา​ วงศ์ดาว​​ และครูวรรณิกา​ ดอกจันทร์​ ​ครูโรงเรียนบ้านปิน​ ปินประชาราษฎร์​ นำทีมเหล่านักเรียนไปเช็กสภาพฝุ่น

ถ้าไลเคนเป็นสีเขียว​ แสดงว่าอากาศโดยรอบดี​ แต่ถ้าไลเคนเป็นสีแดง​ หรือน้ำตาลแสดงว่ามลพิษในอากาศมาก

หลังทำกิจกรรมนี้นอกจากเด็ก​ ๆ​ จะได้เรียนรู้เรื่องการวัดค่าฝุ่นผ่านไลเคนแล้ว​ ยังสร้างจิตสำนึกให้ทุกคนช่วยกันลดฝุ่น​ และส่งต่อแนวคิดรักษาสิ่งแวดล้อมไปในครอบครัวจนถึงชุมชน​ เพื่อดูแลสุขภาพตัวเองและสุขภาพสิ่งมีชีวิตอื่น​ ๆ​ ด้วย

 

 

ไม่ใช่เพียงวิชาวิทยาศาสตร์เท่านั้นแต่โรงเรียนบ้านปินยังมีกิจกรรมสร้างการเรียนรู้เรื่องฝุ่นผ่านนวัตกรรมทั้งโครงงานผ้าม่านดักฝุ่น​ เปลี่ยนผ้าม่านธรรมดาให้ดักจับฝุ่นลดการกระจายละอองในอากาศ​ ก่อนจะนำมาทดสอบปริมาณฝุ่นในห้อง

ขณะเดียวกันยังร่วมกับชุมชนในพื้นที่ลดการเผา ด้วยการนำไม้ไผ่มาประยุกต์เป็นแก้ว​ หลอด​ และช้อนส้อม​ สร้างรายได้ให้ชุมชน​ และสร้างชั่วโมงสมาธิให้กลุ่มนักเรียนพิเศษ

 

โรงเรียนบ้านปิน​ ปินประชาราษฎร์​ คือ​ 1​ ใน​โรงเรียน​ จ.แพร่​ ที่เข้าร่วมโครงการห้องเรียนสู้ฝุ่นจากความร่วมมือของ สสส.และเครือข่ายภาครัฐ​ เอกชน​ ไปจนถึงประชาชน​ เพื่อสร้าง​ Active learning​ สู่​ Active​ Citizen

จากความสำเร็จของโครงการในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย แพร่ และแม่ฮ่องสอน รวม 30 โรงเรียน ในปี 2563​ ทำให้ในปีนี้ทุกฝ่ายตั้งเป้าเดินหน้าห้องเรียนสู้ฝุ่นเพิ่มในโรงเรียนอีก​ 110 แห่งทั่วประเทศ

ไทยจับมือลาวสร้างห้องเรียนสู้ฝุ่นชายแดน

นพ.พรเทพ​ สิริวนารังสรรค์​ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ​ สสส.​ และ​ นายชาติวุฒิ​ วังวล​ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุม​ปัจจัยเสี่ยง​ทางสุขภาพ สสส.​ ระบุว่า​โครงการห้องเรียนสู้ฝุ่นประสบความสำเร็จในการสร้างองค์ความรู้ให้นักเรียนนำไปบอกต่อสู่ชุมชน​ ทำให้​ สสส.ร่วมกับเครือข่ายตั้งเป้าเดินหน้าห้องเรียนสู้ฝุ่นเพิ่มเป็น​ 140 แห่ง​ 

 

สำหรับภาคเหนือตอนบน 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน น่าน และพะเยา รวม 50 โรงเรียน ขับเคลื่อนผ่านสภาลมหายใจภาคเหนือและสภาลมหายใจของแต่ละจังหวัด

ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น และอุดรธานี รวม 20 โรงเรียน ขับเคลื่อนผ่านองค์การบริหารส่วนจังหวัด

ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่าแม้จะแก้ไขปัญหาในประเทศแล้ว​ แต่ไทยยังต้องเผชิญกับฝุ่นจากเพื่อนบ้านอยู่​ ดังนั้น​ จึงยังสร้างเครือข่ายโรงเรียนตามแนวชายแดนประเทศไทย-ลาว รวม 10 โรงเรียน ขับเคลื่อนผ่านกลไกคณะกรรมการความร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามชายแดนทั่วไปไทย–ลาว กองทัพภาคที่ 3

สสส.ร่วมกับเครือข่ายประสานโรงเรียนในลาว​ 10 แห่งเป็นโมเดลห้องเรียนสู้ฝุ่น​ โดยปรับหลักสูตรเป็นภาษาลาว​ เพื่อสร้างความเข้าใจในวิกฤต​ PM2.5​ เพื่อลดมลพิษจากเพื่อนบ้านอีกทาง

 

เสวนา​ ผอ.-ครู​ สร้างองค์ความรู้สู่ห้องเรียนสู้ฝุ่น

ขณะที่ในวันนี้​ (10 ธ.ค.2564)​ ผศ.ดร.นิอร​ สิริมงคล​เลิศกุล​ ที่ปรึกษาโครงการห้องเรียนสู้ฝุ่น​ สสส.​ นำทีมเสวนาเชิงปฏิบัติให้ความรู้และสร้างความเข้าใจแก่ครูและผู้อำนวยการที่เข้าร่วมจากกว่า 10 โรงเรียน​ในภาคเหนือ​ ผ่าน​ 10 ฐานความรู้

ไฮต์ไลต์ในวันนี้คือการยกห้องปลอดฝุ่นของจริง​ มาไว้ให้ทุกคนได้เห็นจากทีมวิศวกรมืออาชีพที่มาอธิบายกระบวนการทำงานของห้องด้วยการนำพัดลมเติมอากาศและกรองฝุ่นมาช่วยพัดอากาศสะอาดที่มีฝุ่น​ PM2.5​ น้อยเข้ามาในห้องส่วนชุดพัดลมดูดอากาศจะช่วยสร้างความดันภายในเป็นบวกเทียบกับภายนอก​

 

อีกไฮต์ไลต์สำคัญคือ​ ฐานยักษ์ขาว​ บอกต่อวิธีดูค่าฝุ่นและแจ้งเตือนในโรงเรียนหากมีระดับส่งผลกระทบต่อสุขภาพ​ จะช่วยให้โรงเรียนปรับมาตรการป้องกันฝุ่นได้ทันท่วงที​ โดยเฉพาะการงดกิจกรรมกลางแจ้ง

สสส.ยังได้เปิดตัวแอปพลิเคชันห้องเรียนสู้ฝุ่น​ ซึ่งเปิดให้ประชาชนได้ดาวน์โหลดใช้งาน​ และเป็นอีกเครื่องมือสนับสนุนการเรียนรู้เรื่องฝุ่น​ โดยมีฟังชันก์การเช็กค่าฝุ่น​ เช็กจุดฮอตสปอต​ที่เกิดไฟป่าในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้และประเมินอากาศรอบตัวได้

 

ขณะเดียวกันนักเรียนสามารถแสดงความรู้สึกถึงอากาศในพื้นที่ตัวเอง​ และส่งข่าวและอ่านข่าวเกี่ยวกับฝุ่นผ่านแอปพลิเคชันได้อีกด้วย

ศธ.พิจารณาห้องเรียนสู้ฝุ่นบรรจุเป็นหลักสูตร

ขณะที่นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ที่ปรึกษา​ รมช.ศึกษาธิการ​ ระบุว่า โรงเรียนใน​ จ.ลำพูน​ มีมาตรการการรับมือกับปัญหาฝุ่น PM2.5 อาทิ มาตรการติดตามคุณภาพอากาศแบบวันต่อวัน เมื่อพบค่าฝุ่นที่อันตราย ครูจะประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนสวมใส่หน้ากาก N95 สำหรับวิชาที่ต้องเรียนกลางแจ้งเปลี่ยนมาเรียนในห้องเรียนแทน

ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการอยู่ระหว่างการพิจารณาโครงการ “ห้องเรียนสู้ฝุ่น” ของ สสส. เพื่อบรรจุในหลักสูตรการเรียนการสอน เป็นการเตรียมแผนรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในกรณีค่าฝุ่นส่งผลต่อสุขภาพ พร้อมพัฒนาแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ รวมถึงติดตั้งเครื่องฟอกอากาศให้ทุกชั้นเรียน ตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนปลายเพื่อใช้สำหรับการเรียนการสอนในโรงเรียนที่เกิดวิฤตฝุ่น PM2.5

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

วินิจฉัยโรคฝุ่นเชิงรุก​ชาวลำพูน​ 1,000​ ​คน​ รู้ผลปอด-ภูมิแพ้ใน​ 1​ ชั่วโมง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง