มติกสม.คุ้มครองญาติคดีเสือโคร่งถูก "รื้อบ้าน-ขับพ้น" เขาแหลม

Logo Thai PBS
มติกสม.คุ้มครองญาติคดีเสือโคร่งถูก "รื้อบ้าน-ขับพ้น" เขาแหลม
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กสม.ขอคำตอบ 30 วันหลังประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กรณีเขาแหลม จ.กาญจนบุรี มีคำสั่งรื้อถอนบ้าน-ขับไล่ญาติ ผู้ต้องหาคดีล่าเสือโคร่งบ้านปิล๊อกคี่ หน.เขาแหลม ยันยังอยู่ในขั้นตอนสอบข้อเท็จจริง ยังไม่เปลี่ยนแปลงคำสั่ง

วันนี้ (3 ก.พ.2565) นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า หลังจากคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านหมู่บ้านปิล๊อกคี่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี 5 คนแจ้งว่าถูกดำเนินคดีในข้อหาล่าสัตว์ป่าคุ้มครองเสือโคร่ง ที่ใกล้สูญพันธุ์ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ

ผู้ร้องกล่าวอ้างว่า การกระทำดังกล่าวเป็นไปเพื่อป้องกันสัตว์เลี้ยงที่ถูกเสือเข้ามากัดกิน และป้องกันอันตรายจากเสือ รวมทั้งเด็กเล็กที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน จึงยิงเสือนำเนื้อมาประกอบอาหาร เพื่อไม่ให้การตายของเสือดังกล่าวต้องเสียเปล่าไปโดยผู้ร้องทั้ง 5 คนได้ติดต่อมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่แล้ว

แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ออกคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง บ้านเรือนทั้งหมด 4 หลัง ให้ครอบครัว ญาติพี่น้องของผู้ร้องออกจากเขตเขาแหลม ซึ่งผู้ร้องเห็นว่า ครอบครัวและญาติพี่น้องของพวกตน มิได้ร่วมกระทำความผิดด้วยแต่อย่างใด จึงเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรม เลือกปฏิบัติ และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน จึงร้องเรียนมายัง กสม.

ต่อมา น.ส.ศยามล ไกยูรวงศ์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ประสานทางโทรศัพท์ไปยังนายนายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3  และหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง

กสม.ขอให้มีการพิจารณาแยกออกจากกัน ระหว่างกระทำความผิดในข้อหาล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง กับการมีคำสั่งให้ญาติของผู้กระทำความผิดออกจากเขตอุทยานฯ เขาแหลม การให้รื้อถอนบ้าน โดยมิควรพิจารณาในลักษณะเหมารวม

มติกสม.คุ้มครองรื้อถอนบ้าน-ขับพ้นเขาแหลม

นอกจากนี้ยังได้หารือถึงกรณีที่รัฐบาลมีนโยบายแก้ปัญหาบุคคลที่อยู่อาศัย หรือทำกินในอุทยานแห่งชาติ รวมทั้งเรื่องการแก้ไขและป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น โดยการหารือร่วมกันระหว่างหัวหน้าอุทยานแห่งชาติกับผู้นำท้องถิ่น องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และชาวบ้านในหมู่บ้านปิล๊อกคี่

กสม. เห็นว่า สิทธิของบุคคลในทรัพย์สินเป็นสิทธิที่ได้รับการรับรองไว้ตามมาตรา 37 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 กรณีการมีคำสั่งให้ญาติหรือบริวารของผู้ร้องออกจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม และการมีคำสั่งให้รื้อถอนบ้านและโรงเรือน รวมไปถึงกรณีที่จะต้องมีการจัดการเรื่องพื้นที่การเลี้ยงโคกระบือของชาวบ้านนั้น เป็นเรื่องที่สมควรประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

กสม.มีมีมติให้แจ้งประสานการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนไปยัง สบอ.3 และเขาแหลม เพื่อดำเนินการตามหน้าที่ และอำนาจตามแนวทางที่ได้หารือกันในเบื้องต้นไว้ ขอทราบผลภายใน 30 วันโดยอยู่ระหว่างแจ้งหนังสือเป็นทางการ

สอบข้อเท็จจริงคู่ขนาน-ยันคุ้มครองแค่ญาติพี่น้อง

ด้านนายกมลาศ อิสสอาด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอส ออนไลน์ว่า กำลังเดินทางเข้าพื้นที่บ้านปิล๊อกคี่ พร้อมกับทีมเจ้าหน้าที่เพื่อติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่าหลังมีชาวบ้านถูกเสือทำร้ายเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน 

ส่วนกรณี กสม.มีมติคุ้มครองญาติของผู้ต้องหาที่จะถูกขับพ้นเขาแหลมและรื้อถอนบ้านตามมติครม.30 มิ.ย.41 ตอนนี้ทางเขาแหลมก็มีการสอบข้อเท็จจริงคู่นานกันไปว่าญาติและบริวารในบ้าน มีส่วนรู้เห็นกับผู้ตองหาด้วยหรือไม่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ตอนนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่ง 

ตอนนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำสั่งใดๆ เพราะยังสอบข้อเท็จจริง ถ้ามีการสอบถ้อยคำ ผู้ใหญ่บ้านรับรองว่าไม่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนฆ่าเสือโคร่ง ก็ไม่ถือว่าฝ่าฝืนมติ30 มิ.ย.41 แต่ไม่เกี่ยวกับผู้ต้องหาทั้ง 5 คน 

เมื่อถามว่ามติกสม.ที่ออกมาแบบนี้จะเป็นบันทัดฐานกับคดีอื่นๆหรือไม่ นายกมลาศ กล่าวว่า ขณะนี้ยังยืนยันว่าเป็นการทำตามหน้าที่ ตามกฎหมายที่มีอยู่ ถ้าไม่ดำเนินการอะไรก็จะถูกฟ้องข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่เช่นกัน การที่ชาวงบ้านร้องให้กสม.ช่วยตรวจสอบก็สามารถทำได้ 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผู้ต้องหาคดี "เสือโคร่ง" ร้อง กสม. ถูกขับพ้นเขาแหลม-ห้ามเลี้ยงสัตว์

ติดกล้องดักถ่ายภาพ "เสือโคร่ง" บ้านปิล๊อกคี่

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง