จับตาพรุ่งนี้ นายกฯ ถก ศบค.ชุดใหญ่ ปรับมาตรการโควิด

สังคม
22 ก.พ. 65
11:31
11,130
Logo Thai PBS
จับตาพรุ่งนี้ นายกฯ ถก ศบค.ชุดใหญ่ ปรับมาตรการโควิด
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
นายกรัฐมนตรี ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ 23 ก.พ.นี้ พิจารณามาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักรและแผนการฉีดวัคซีน ขณะที่ กรณีผู้ป่วยโควิด-19 สีแดง ยังสามารถเข้ารักษาในหน่วยบริการนอกระบบตามหลักการ UCEP

วันนี้ (22 ก.พ.2565) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จะเป็นประธานการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันพรุ่งนี้ (23 ก.พ.)

นายธนกร กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.จะมีการพิจารณาการปรับมาตรการป้องกันโรคสำหรับการเดินทางเข้าราชอาณาจักร แผนการให้บริการวัคซีน โดยจะเน้นเรื่องความปลอดภัยของคนไทยเป็นสำคัญ รวมถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขยกระดับการเตือนภัยโควิด-19 เป็นระดับ 4 ทั่วประเทศ โดยขอความร่วมมือประชาชนงดเข้าสถานที่เสี่ยง เลี่ยงการรวมกลุ่ม ชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด ดังนั้นหากมีความเสี่ยงขอให้กักตัวเอง โดยมาตรการในการควบคุมโรคยังมีความสำคัญ

 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังยืนยันถึงแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ประชาชนสามารถใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) สิทธิประกันสังคมและสิทธิสวัสดิการข้าราชการ อย่างไรก็ตามหากผู้ป่วยโควิด-19 มีอาการปอดบวม มีไข้สูง อยู่ในเกณฑ์สีแดงหรือภาวะการเข้าข่ายฉุกเฉินก็ยังสามารถเข้ารักษายังหน่วยบริการนอกระบบตามหลักเดิมของ UCEP ที่มีอยู่เดิมได้ แต่หากไม่มีอาการก็เข้ารักษาในสถานพยาบาลตามสิทธิ

 

ทั้งนี้ สิทธิการรักษาผู้ป่วยฉุกเฉิน (UCEP) คือ สิทธิการรักษาตามนโยบายรัฐ เพื่อคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ให้สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทุกแห่งที่ใกล้ที่สุดได้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จนพ้นวิกฤตและสามารถคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย แต่ไม่เกิน 72 ชั่วโมง

สำหรับประกาศยกเลิกการกำหนดให้ผู้ "ติดโควิด" เป็น "ผู้ป่วยฉุกเฉิน" หรือ UCEP แล้วให้ไปใช้สิทธิตามหลักประกันสุขภาพของแต่ละบุคคล จะเริ่มในวันที่ 1 มี.ค.นี้

ไทยฉีดวัคซีนสะสม 121 ล้านโดส

ขณะที่ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ วันนี้ รวม 18,363 คน จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 18,236 คน ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 127 คน ผู้ป่วยสะสม 526,126 คน (ตั้งแต่ 1 ม.ค.2565) หายป่วยกลับบ้าน 15,651 คน หายป่วยสะสม 389,302 คน (ตั้งแต่ 1 ม.ค.2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 169,074 คน เสียชีวิต 35 คน

การให้บริการวัคซีน โควิด-19 สะสมอยู่ที่ 121,989,737 โดส เข็มที่ 1 ฉีดสะสม 53,180,882 โดส เข็มที่ 2 ฉีดสะสม 49,497,055 โดส เข็มที่ 3 ฉีดสะสม 17,806,551 โดส เข็มที่ 4 ฉีดสะสม 1,505,249 โดส

 

อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกฉีดวัคซีนแล้ว 10,558 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 29.1 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐฯ มีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 550 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 215 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว

 

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง