ครม.ตีกลับ - สธ.คง UCEP ทบทวน “โควิด” รักษาฟรีตามสิทธิ

สังคม
23 ก.พ. 65
07:20
551
Logo Thai PBS
ครม.ตีกลับ - สธ.คง UCEP ทบทวน “โควิด” รักษาฟรีตามสิทธิ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สธ.ทบทวน “โควิดรักษาตามสิทธิ” ตามมติ ครม.และยังใช้กลไก UCEP COVID รักษาฟรีทุกที่ตามเดิม สถานพยาบาลเอกชนไม่สามารถปฏิเสธการรักษาได้ เร่งสื่อสารประชาชนถึงการใช้สิทธิการรักษา ช่องทางเข้ารับบริการ และ UCEP Plus ก่อนนำเสนอ ครม.อีกครั้ง

เมื่อวันที่ 22 ก.พ.2565 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พร้อมด้วย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) แถลงแนวทางการรักษาและเบิกจ่ายโรค COVID-19


นพ.ธเรศ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดปรับระบบการรักษาโรค COVID-19 ให้เป็นการรักษาตามสิทธิ เริ่มวันที่ 1 มี.ค.2565 และจะมีการประกาศใช้ UCEP Plus ดูแลผู้ป่วย COVID-19 อาการสีเหลืองและสีแดงให้เข้ารับบริการได้ในสถานพยาบาลรัฐและเอกชนทุกแห่ง

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มอบให้กระทรวงสาธารณสุขทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง ดังนั้น ขณะนี้โรค COVID-19 จึงยังเป็นโรคฉุกเฉินสามารถรักษาได้ทุกที่ (UCEP COVID) สถานพยาบาลโดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชนไม่สามารถปฏิเสธการรับผู้ป่วยได้ หากไม่มีศักยภาพในการดูแลหรือไม่มีเตียงจะต้องส่งต่อ และไม่สามารถเรียกเก็บเงินมัดจำได้ มิเช่นนั้นจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล

ส่วนการทบทวนจะเน้นทำความเข้าใจประชาชน ทั้งการเข้าสู่ระบบเมื่อติดเชื้อ ช่องทางติดต่อ การใช้สิทธิรักษาของแต่ละกองทุนสุขภาพ ความเข้าใจเรื่องระดับอาการที่มีการดูแลแตกต่างกัน เช่น อาการปานกลางสีเหลืองที่เข้ารักษาได้ทุกที่มีเกณฑ์อย่างไร เป็นต้น รวมถึงระบบการส่งต่อ เพื่อให้ประชาชนเข้ารับบริการได้ถูกช่องทาง และทำความเข้าใจกับฝั่งสถานพยาบาลด้วย


ส่วนเรื่องของ UCEP Plus ซึ่งสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ได้เตรียมการรองรับและทำระบบคัดแยกไว้แล้วนั้น จะมีการทบทวนไปพร้อมกัน ซึ่งไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาในการทบทวนไว้ หากเตรียมกระบวนการบริการและการสื่อสารครบถ้วนก็นำเสนอ ครม.ต่อไป

นพ.จเด็จ ยืนยันว่า UCEP COVID ยังรักษาได้ทุกที่ ไม่จำเป็นต้องกลับไปรักษายังหน่วยบริการที่ลงทะเบียนไว้ ส่วนการรับบริการทั้งที่บ้าน ชุมชน โรงแรม โรงพยาบาล ระบบจะเข้าไปดูแลค่าใช้จ่าย สำหรับช่องทางลงทะเบียนผู้ติดเชื้อผ่านสายด่วน 1330 พบว่า วันที่ 21 ก.พ.2565 มีจำนวนสายติดต่อเข้ามาสูงที่สุด 49,005 สาย ในรอบ 24 ชั่วโมง จึงเพิ่มเจ้าหน้าที่รับสายอีก 150 คน

ทุกวินาทีจะมีผู้รอสายประมาณ 50 สาย จึงแนะนำให้ติดต่อผ่านไลน์ สปสช. @nhso หรือเว็บไซต์ของ สปสช. จะมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องและติดต่อกลับเช่นกัน

สำหรับต่างจังหวัด หรือปริมณฑล จะเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดแต่ละแห่งดูแลโดยทางศูนย์ฯ 1669 จะพิจารณา ส่งทีมและรถไปรับผู้ป่วยไปส่งยังสถานพยาบาล ที่จะไปรับการรักษาตามคำแนะนำของ สปสช. 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง