วันนี้ (2 พ.ค.2565) ตัวแทนลูกศิษย์หลวงพ่อเกษม อดีตเจ้าอาวาสวัดทุ่งน้อย จ.นครปฐม นำโดยนายวิชัย ประเสริฐสุดสิริ นายผดุง เล็กจินดา และนายสุชิน จำปาทอง เข้าแจ้งความให้ตำรวจกองปราบปรามดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์กับพระเผชิญ เจ้าอาวาสวัดทุ่งน้อย รูปใหม่
ผู้เสียหาย เล่าว่า ช่วงที่หลวงพ่อเกษมยังไม่มรณภาพ ลูกศิษย์ที่รวมตัวได้ 6 คน จะนำพระเครื่องและวัตถุมงคลไปฝากอดีตเจ้าอาวาสไว้ เพื่อให้ผู้ที่ต้องการเช่าไปบูชา ซึ่งเงินที่ได้จากการเช่าก็จะนำไปบูรณะปฏิสังขรณ์วัด โดยทำแบบนี้มานานกว่า 20 ปี กระทั่งหลวงพ่อเกษมมรณภาพ พระเผชิญซึ่งเคยเป็นพระลูกวัดทุ่งน้อยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสรูปใหม่ กลุ่มลูกศิษย์ที่เคยนำวัตถุมงคลไปฝากเช่า จึงรวมตัวขอคืนวัตถุมงคลทั้งหมด แต่ปรากฏว่าเจ้าอาวาสรูปใหม่ไม่คืน กลับปิดล็อกกุฏิแน่นหนา ซึ่งมองว่ามีเจตนาต้องการเก็บพระเครื่องไว้เอง
ที่ผ่านมา มีการทวงถามขอคืนหลายครั้ง จนล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะตำบล ในฐานะพระชั้นปกครอง มีมติคืนวัตถุมงคลทั้งหมดที่ไม่ใช่ของวัดให้กับพวกตนเอง แต่ปรากฏว่าเจ้าอาวาสรูปใหม่ยังไม่คืน แต่ให้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาวัตถุมงคลทั้งหมดก่อน สุดท้ายก็ยังไม่แต่งตั้ง ทำให้ผู้เสียหายร้อนใจและเข้าแจ้งความ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว แต่ก็ยังไม่มีการส่งคืน
ผู้เสียหาย ยังกล่าวว่า พระเครื่องที่ฝากไว้กับอดีตเจ้าอาวาส มีมูลค่าในตลาดพระเครื่อง รวม 20 ล้านบาท เช่น หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ จ.พระนครศรีอยุธยา พระซุ้มกอ ลายกนก ซึ่งเป็นพระกรุ จ.กำแพงเพชร หลวงปู่ตู วัดท่าล้อ และหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า พร้อมยอมรับว่า ที่ผ่านมาอดีตเจ้าอาวาส และเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน เคยมีปัญหาบาดหมางกันมาก่อน ถึงขั้นไม่ร่วมวงฉันภัตตาหารด้วยกัน ส่วนกลุ่มลูกศิษย์ไม่ได้แบ่งฝ่าย แต่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดเจ้าอาวาสรูปใหม่ถึงไม่คืนวัตถุมงคล