"ปลอดประสพ" บอกเอง "นักการเมือง-ผู้มีอิทธิพล" ตัวการรุกป่า

การเมือง
15 มิ.ย. 65
15:38
646
Logo Thai PBS
"ปลอดประสพ" บอกเอง "นักการเมือง-ผู้มีอิทธิพล" ตัวการรุกป่า
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"ปลอดประสพ" อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ เผยผู้มีอิทธิพล ซึ่งส่วนใหญ่คือนักการเมืองที่เข้ามาบุกรุกป่า โดยทำอย่างเป็นขบวนการ พร้อมตั้งข้อสังเกตบางอย่างกับกรณีรุกป่าที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้

วันนี้ (15 มิ.ย.2565) นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์กับรายการประจักษ์จับประเด็น รายการออนไลน์ของไทยพีบีเอส โดยเล่าถึงปัญหาการบุกรุกป่าในสมัยที่ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมป่าไม้ ปี 2541-2545

โดยระบุว่า ผู้ที่เข้ามาบุกรุกป่าส่วนใหญ่จะเป็นผู้มีอิทธิพล สมัยก่อนรุกพื้นที่ป่าไม่มาก แค่สร้างบ้าน 1-2 หลัง แตกต่างจากกรณีในปัจจุบันที่รุกป่านับ 10 แปลง ถือว่าเป็นเรื่องแปลก

ไทยพีบีเอสออนไลน์ถอดคำสัมภาษณ์ของนายปลอดประสพ มาเรียบเรียงให้เห็นปัญหาการบุกรุกป่า และพฤติกรรมของผู้มีอิทธิพลว่าเป็นอย่างไร

"ปลอดประสพ" ปูพื้น ที่มาของ "ป่า"

ตอบ : กฎหมายกำหนดว่าพื้นที่ใดที่ไม่มีเจ้าของ ราษฎรไม่ได้ครอบครอง ไม่มีเอกสารสิทธิ์ หน่วยราชการใด ๆ ไม่ได้ใช้ เรียกว่า ป่า ต่อมาเรียกว่า ป่าถาวร มี พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ขึ้นมา

ป่าถาวรแปลว่า วันหน้าจะต้องเป็นป่าอะไรสักอย่าง เช่น เป็นที่อุทยานแห่งชาติ เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เวลาจะเอาไปให้คนอื่นใช้ เขาจะเรียกว่า ป่าจำแนก เช่น จำแนกไปเป็น ส.ป.ก. จำแนกให้ประชาชนทำกิน ออกเอกสารสิทธิ์ จำแนกไปเป็นนิคมฯ เป็นต้น

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีกำเนิดจากป่าถาวร ซึ่งมีกำเนิดมาจากป่าธรรมดา และจำแนกมาเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อประกาศอุทยานฯ ก็จะประกาศทับบนป่าสงวนแห่งชาติหลายแปลง ทับป่าจำแนกหลายแปลง

มีความจริงอยู่ว่า เมื่อประกาศพื้นที่เป็นอุทยานฯ แล้ว หรือเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตวป่าแล้ว เกือบจะไม่มีเลย 99.99 % ที่จะเพิกถอนเอาไปเป็นของเอกชน จะมีเฉพาะโครงการพระราชดำริเท่านั้น เช่น สร้างเขื่อน การจะไปออกโฉนด ออก น.ส.3 ทำไม่ได้ทั้งสิ้น

"นักการเมือง-อิทธิพล" ตัวการรุกป่า

ตอบ : ในยุคที่ผมทำงาน จะเจอปัญหาเรื่องที่ดินกับกลุ่มมวลชนและกลุ่มผู้มีอิทธิพล ซึ่งมักจะเป็นนักการเมือง กลุ่มนักการเมืองผมเคยเจอ 4 คนที่ต้องเผชิญ อยากจะบอกว่า บางครั้งแทบจะเอาชีวิตไม่รอด

นักการเมืองคนแรก ประมาณปี 2543 บ้าน 3 หลัง ที่เขื่อนศรีนครินทร์ เป็นรัฐมนตรีที่มีความสำคัญไม่น้อยกว่านายกรัฐมนตรี และมีฝ่ายจังหวัดเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมเข้าไปจับกุม

สิ่งที่น่าเสียใจคือ คนที่ถูกลงโทษกลายเป็นลูก ทุกครั้งที่ไปศาล ผมไม่สบายใจ เพราะมองเห็นลูกของเขา เพราะลูกเขาไม่รู้เรื่อง ผลสุดท้ายก็เป็นความผิดจริง ๆ ถูกจำคุก เราก็ได้ของคืน ครั้งนั้น เขาใหญ่โตมาก มีคนมีสีไม่ใช่ทหาร เข้ามาเกี่ยวข้อง มีการกระทบกระทั่ง รักษาเนื้อรักษามากตัวพอสมควร

กรณีที่ 2 เกิดขึ้นที่ จ.อุดรธานี ที่เรียกว่า วังสามหมอ คนนี้ก็เคยเป็นรัฐมนตรีเช่นกัน เขาให้ตำรวจมารับหน้าแทนและติดคุกไป เดี๋ยวนี้เจอกัน เขาก็ยังบอกผมเลยว่า ไม่นึกว่าผมจะทำแบบนั้น ผมก็บอกขอโทษ แต่โดยหน้าที่ต้องทำ กรณีนี้ไม่มีการข่มขู่ แต่มีการท้าทายกัน

กรณีที่ 3 ที่เขื่อนศรีนครินทร์ ครั้งนี้รุนแรงหน่อย เกี่ยวข้องกับผู้บังคับบัญชาโดยตรงของผมเลย

กรณีสุดท้าย เป็นรัฐมนตรีที่มีชื่อเสียง เขาไปรุกป่า รุก ส.ป.ก. ซึ่งยังเป็นพื้นที่ สปก.ยังไม่สมบูรณ์ ผมมาพูดต่อหน้านายกรัฐมนตรีทักษิณ

ผมบอกว่า ผมรับไม่ได้ ที่ผมไม่จับ เพราะมีราษฎรอยู่ข้างเคียงที่ทำคล้ายแบบเดียวกัน ซึ่งรัฐมนตรีต้องออกไปนะ ก็บอกไปว่า ถ้าภายใน 1 เดือนไม่ออกไป ก็จับหมด ซึ่งในที่สุดรัฐมนตรีคนนั้นก็ออกจากพื้นที่ไป
ทั้งหมดนี้ คือ กลุ่มผู้มีอิทธิพล

แปลกมาก! ที่คนเป็นข่าว รุกป่านับ 10 แปลง

ตอบ : สมัยผมที่เขาใหญ่ยังไม่มีรุกป่า อย่างเก่งก็แอบเข้ามาล่าสัตว์และหาไม้เนื้อหอมเท่านั้น ผมว่าเริ่มรุกป่ากันอย่างรุนแรงน่าจะเป็นช่วงปฏิวัติ เพราะมีลูกน้องเคยเล่าให้ฟังว่า มีผู้มีอิทธิพลรุกเข้ามาทุกด้านเลย แล้วเขาก็เอ่ยชื่อ คนที่เราคุ้นอยู่ในขณะนี้

ที่ผมเล่าถึงนักการเมือง 4 คนที่ผมเจอ เขารุกที่กันคนละนิดคนละหน่อย เป็นบ้าน 1-2 หลัง กรณีปัจจุบันเป็นครั้งแรกนะที่รุกป่าเป็นสิบแปลง อันนี้แปลก ทำเป็นกิจการ ทำเป็นธุรกิจ เป็นขบวนการมาก

เปิดขบวนการรุกป่า

ตอบ : ข้อแรกต้องจีบเพื่อนบ้านก่อน เพื่อไม่ให้ร้องเรียน ขั้นตอนที่ 2 คือ ทำข้อตกลงกับผู้ใหญ่บ้าน เพราะผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้เดินร่วมในการสำรวจที่ดิน จากนั้นต้องพูดกับกรมที่ดิน ในระดับผู้ปฏิบัติระดับล่าง (ผู้ร่วมเดินสำรวจที่ดิน) ถัดไปเป็นกรมป่าไม้ กรมอุทยานฯ บางครั้งอาจเป็น ส.ป.ก. ก็ได้ และจะต้องมีสีเข้ามา และจะต้องมีคนที่ให้การคุ้มครองทางกฎหมายเข้ามา เมื่อครบทีมถึงจะทำ ซึ่งครั้งนี้ก็ครบครับ

รู้จักคนที่เป็นข่าวหรือไม่

ตอบ : รู้จักดี เพราะเคยอยู่พรรคไทยรักไทยมาก่อน แต่ไม่เคยพูดเรื่องที่ดิน ถ้าพูดเรื่องที่ดินกับผม ก็ไม่มีข่าวในวันนี้แน่

ขอตั้งข้อสังเกตจากกรณีที่เป็นข่าว

ตอบ : กรณีนี้เข้าใจว่าบุกรุกหลายแปลงมาก ก็ต้องไปรีบสอบเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ ซึ่งพวกเขารู้ว่าแปลงไหนบ้าง ซึ่งต้องให้อธิบดีเรียกลูกน้องมาถาม และให้ความคุ้มครองด้วย พาไปดูรายแปลงแล้วแจ้งความเลย ยังมีอีกหลายแปลงแน่นอน

ขอตั้งข้อสังเกตอย่างหนึ่ง กรณีนี้เมื่อรู้ว่าบุกรุกแผ่วถาง ทำไมไม่แจ้งความ ไปส่งให้ ป.ป.ช.โดยตรง ทำไม ป.ป.ช.ไม่ได้มีมือมีเท้า หรือมีประสบการณ์ ถ้าผ่านตำรวจที่มีประสบการณ์ เรื่องนี้จบไปนานแล้ว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

กอ.รมน.เร่งคดี "วิลาวัลย์" รุกเขาใหญ่ ลุยต่อฟอกป่าออกโฉนด

ขยายเวลาสร้าง "ห้วยโสมง-แม่กวง" ปมเวนคืนที่ดิน-เพิกถอนอุทยาน

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง