"ราชทัณฑ์"ตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริง ผู้ต้องขังทะลุแก๊สพยายามฆ่าตัว

การเมือง
28 มิ.ย. 65
09:53
244
Logo Thai PBS
"ราชทัณฑ์"ตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริง ผู้ต้องขังทะลุแก๊สพยายามฆ่าตัว
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
รมว.ยุติธรรม เผยผู้ต้องขังทะลุแก๊ส ปลอดภัย หลังเครียดกินยาเกินขนาด พบมีการรวบรวมยาพาราเซตามอลจากผู้ต้องขังรายอื่น ขณะที่ กรมราชทัณฑ์สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว

วันนี้ (28 มิ.ย.2565) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีผู้ต้องขังคดีการเมืองกลุ่มทะลุแก๊สจำนวน 3 คน พยายามกินยาพาราเซตามอลปริมาณมากเกินขนาด ภายในเรือนจำว่า

เบื้องต้นได้รับรายงานจากกรมราชทัณฑ์แล้ว พบว่า ผู้ต้องขังได้รวบรวมยาพาราเซตามอลจากผู้ต้องขังรายอื่น ๆ ที่ปกติแต่ละคนจะได้รับคนละ 1 - 2 เม็ด หากมีการขอซึ่งปกติหากกินเกินถึง 3 เม็ดก็จะเกิดอาการผิดปกติแต่กรณีนี้ไม่ทราบว่ามีการรับประทานไปจำนวนเท่าใด

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการดูแลของแพทย์ และนักจิตวิทยาที่เข้าไปดูแล ยืนยันว่า ผู้ต้องขังที่ก่อเหตุปลอดภัยดีแล้วไม่มีปัญหาใด ๆ และความรู้สึกทางจิตใจต่าง ๆ ก็ดีขึ้น หลังจากมีนักจิตวิทยาเข้าไปพูดคุยทำให้ความเครียดต่าง ๆ ลดลง ยืนยันว่า ทุกคนปลอดภัยและอยู่ในการดูแลของแพทย์

นายสมศักดิ์กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้จะให้แพทย์เข้าไปดูแลผู้ต้องขังบ่อยขึ้น จากปกติแพทย์จะเข้าไปตรวจทุกวันพุธและวันพฤหัสบดี ก็จะปรับเป็นให้เข้าไปดูทุกวันเพื่อความปลอดภัย และสังเกตอาการผิดปกติของผู้ต้องขัง ยืนยันว่า ราชทัณฑ์ให้ความสำคัญดูแลผู้ต้องขังอย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลจะมีกรณีพฤติกรรมเลียนแบบในเรือนจำหรือไม่ นายสมศักดิ์ ยืนยันว่าเป็นเรื่องที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้ามาดูแลเพื่อป้องกัน

ขณะที่ กรมราชทัณฑ์ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร พบว่า ผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าว จำนวน 3 คน ได้แก่ นายใบบุญ ไทยพาณิช และ นายพุฒิพงศ์ สมบุญ ได้ทำร้ายตัวเองด้วยการนำของมีคมกรีดข้อมือตนเอง พร้อมด้วย นายพลพล จิตรสุภาพ รับประทานยาพาราเซตามอล เกินขนาด เป็นเหตุต้องนำส่งไปรักษาตัวยังทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย.2565

อาการเบื้องต้น ณ วันที่ 27 มิ.ย.2565 นายพลพล มีอาการดีขึ้น รู้สึกตัวได้ดี พูดคุยรู้เรื่องช่วยเหลือตัวเองได้ ยังรับประทานอาหารได้มากขึ้น ไม่มีอาการปวดท้อง แต่ยังมีอาการคลื่นไส้อาเจียนเล็กน้อย นอนหลับได้ อาการเครียดดีขึ้นตามลำดับ อยู่ระหว่างการรักษาสังเกตอาการใกล้ชิด

จากการสอบถามโดยนักจิตวิทยา นายพลพล แจ้งว่า สาเหตุจากการกระทำดังกล่าว เกิดจากความเครียดในเรื่องส่วนตัว เนื่องจากเป็นห่วงภรรยาที่ตั้งครรภ์และเรื่องคดีความของตนแต่ก็จะพยายามปรับตัว ไม่คิดมากให้เกิดความเครียดอีก

ในส่วนของ นายใบบุญ และ นายพุฒิพงศ์ ที่ได้ทำร้ายตัวเองด้วยการนำของมีคมกรีดข้อมือตนเองนั้น พบว่ามีบาดแผล แต่ไม่รุนแรง พยาบาลประจำเรือนจำได้ทำการรักษาล้างแผลให้ทุกวัน โดยสาเหตุของการกระทำดังกล่าว แจ้งว่าเกิดจากความกังวลเรื่องทนายไม่มาติดต่อหรือพูดคุย แต่หลังจากได้เยี่ยมญาติและพบทนายแล้ว ทั้ง 2 คนก็รู้สึกเกิดความผ่อนคลายมากขึ้น

นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว กรมราชทัณฑ์ มิได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใดและได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการลักลอบนำยาพาราเซตามอลที่มีจำนวนมาก และการทำร้ายตัวเองด้วยของมีคมดังกล่าวแล้ว เพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก

ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพจิตของผู้ต้องขังทุกราย และมีความเป็นห่วงอย่างยิ่ง เมื่อผู้ต้องขังเกิดความเครียดที่ต้องถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ โดยกำชับให้ทุกเรือนจำและทัณฑสถานทุกแห่ง มอบหมายนักจิตวิทยา เข้าดูแลพูดคุยกับผู้ต้องขังเพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และเท่าเทียมกัน เพื่อมิให้เกิดการทำร้ายตัวเองขึ้นอีก 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

"กรมราชทัณฑ์" ยืนยันผู้ต้องขังกลุ่มทะลุแก๊สพยายามฆ่าตัว 3 คน

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง